"ปี 58 มีแผนสร้างรายได้ และยอดขายให้เติบโต 23% และ 14% ตามลำดับ ด้วยความระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจ แม้ว่ามองเห็นโอกาสในการเติบโตจากปี 57"นายชานนท์ กล่าว
บริษัทฯ มีกระแสเงินสดในปี 58 ที่มั่นคงและแข็งแกร่ง พร้อมกับนโยบายรักษาเงินสดในระดับ 1,000 ล้านบาทอยู่ตลอดเวลา และยังคงได้รับการสนับสนุนที่ดีจากธนาคาร รวมถึงมีทางเลือกหลายทางหากจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ลดลงจากที่ออกไปแล้วกว่า 6,400 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากใช้กระแสเงินสดจากเงินทุนที่มีอยู่
ส่วนในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายกว่า 20,131 ล้านบาท จากยอดขายโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้า และยอดขายจากโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 14,950 ล้านบาทที่เปิดตัวในปีนี้ ส่วนอัตราส่วนที่ลูกค้ายกเลิกการซื้อคอนโดมิเนียมในปี 57 อยู่ในระดับไม่เกิน 2% และอัตราส่วนลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อยู่ในระดับไม่เกิน 3% คาดหวังว่าจะไม่เพิ่มขึ้นในปีหน้า
บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้ทั้งในด้านยอดขายและการเปิดตัวโครงการเพื่อตอบรับของกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยบริษัทสามารถสร้างรายได้ในไตรมาส 3/57 จำนวน 2,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 80% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัทยังมีกำไรจากการโอนที่ดินให้กับโครงการ Ashton Asoke ซึ่งร่วมทุนกับ Mitsui กว่า 110 ล้านบาท และมีรายได้อื่น 59 ล้านบาท บริษัทจึงปรับเพิ่มเป้ารายได้ทั้งปีเป็น 10,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากเป้าหมายเดิม 9,070 ล้านบาท เนื่องจากยอดโอนที่ดีกว่าคาด และโครงการใหม่ 2 แห่งจะแล้วเสร็จได้ตามกำหนดและเริ่มโอนได้ในไตรมาส 4/57
ในไตรมาส 3/57 บริษัทได้โชว์กำไรกว่า 225 ล้านบาท เติบโตอย่างมากจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 96 ล้านบาท ซึ่งเทิร์นอะราวน์กว่า 321 ล้านบาท
บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า 4 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ แอชตัน อโศก, ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี, ไอดีโอ โมบิ สุขมวิท อีสท์เกต และไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยเปิดขายให้แก่ลูกค้าเก่าของบริษัทฯ (AMC-Ananda Member Club) และลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมจากงาน “IDEO URBAN PULSE" ที่สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 16-19 ต.ค.
ไฮไลท์อยู่ที่โครงการ แอชตัน อโศก มูลค่าโครงการกว่า 6,700 ล้านบาท และไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี มูลค่าโครงการกว่า 3,800 ล้านบาท สามารถปิดการขาย Sold out 100% ทั้ง 2 โครงการ โดยเฉพาะโครงการแอชตัน อโศก ที่มีความสนใจซื้อถึง 3 เท่าของยูนิตที่มี ส่วนอีก 2 โครงการใหม่ ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท และไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต มูลค่าโครงการกว่า 2,600 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ด้วยมูลค่ายอดขายกว่า 63% และ 40% ตามลำดับ
จากความสำเร็จการเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2 อีเวนท์นี้ ทำให้บริษัทสร้างยอดขายในไตรมาส 3/57 กว่า 11,545 ล้านบาท และปรับเพิ่มเป้ายอดขายทั้งปีเป็น 20,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 73% จาก 11,663 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายโครงการใหม่ และโครงการเดิมที่ดีกว่าคาด ส่วนยอดรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/57 เพิ่มขึ้นเป็น 26,741 ล้านบาท โดยมีกำหนดโอนตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า