นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร TRUE เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติงบลงทุน 3.3 หมื่นล้านบาทในการลงทุนขยายเครือข่าย hi-speed Home Internet ด้วยเทคโนโลยี FTTx โดยวางข่ายสาย Fiber ทั่วกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งพื้นที่กว้างและในอาคารสูง และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี ทำให้ในปี 59 เครือข่ายของทรูจะครอบคลุมผ่าน 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
เครือข่ายดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพรองรับบริการแบบ Quad Play ด้วยศักยภาพการส่งสัญญาณที่มีคุณภาพและความคมชัดสูง ไม่ว่าจะเป็นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่รองรับความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps บริการด้านเสียงที่คมชัด รองรับระบบทีวี UHD ที่ส่งสัญญาณภาพความละเอียดสูงกว่า Full HD ในปัจจุบันถึง 4 เท่า และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กระจายสัญญาณมือถือสปีดเร็วแรงเทียบเท่า 4G ตอบโจทย์การใช้งานทั้งลูกค้าบ้านและองค์กรธุรกิจ คาดว่าจะกระตุ้นตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยรวมให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดลูกค้าทรูออนไลน์ในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็น 70% จากส่วนแบ่งตลาดปัจจุบัน 65% ในปี 59
ส่วนการลงทุนอีก 1 หมื่นล้านบาทจะขยายเครือข่าย 4G LTE ครอบคลุม 80% ของประชากรทั่วประเทศภายในไตรมาส 2/58 โดยทยอยครอบคลุม 60% ในเดือน ก.พ.58 หลังจากปีนี้ติดตั้งสถานีฐานไปแล้ว 2,000 สถานี ทั้งนี้บริษัทจะติดตั้งเครือข่าย 4G LTE บนคลื่น 2100 จำนวน 10 เมกะเฮิร์ต จากทั้งหมด 15 เมกกะเฮิร์ต
"การลงทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ TRUE เป็นผู้นำบรอดแบรนด์และ Mobile Internet และจะช่วยทำให้กรุงเทพกลายเป็นเมืองหลวงของกลุ่มประเทศอาเซียนหลังการเปิด AECปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีอยู่ 4.3 ล้านครัวเรือนซึ่งใหญ่กว่าสิงคโปร์ การลงทุนครั้งนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนของ TRUE แม้จะไม่ใช่เงินลงทุนใหญ่ที่สุดที่เราเคยลงทุน แต่เป็นการลงทุนที่เราภาคภูมิใจเป็นการลงทุนพลิกโฉมช่วยให้ประเทศไทยเติบโตก้าวกระโดดของวงการโครงสร้างพื้นฐานของไอซีทีของประเทศ"นายศุภชัย กล่าว
สำหรับเครือข่าย FTTX จะนำเข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุน TRUEGIF ประมาณ 40-50% ในช่วง 1-2 ปีนี้ ส่วนแหล่งเงินลงทุนในขณะนี้จะมาจากกระแสเงินสดที่ EBITDA ปีนี้เป็นบวก และมีจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านาบท รวมทั้งได้ vendor financing จากผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมด้วย
กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRUE มั่นใจว่าไตรมาส 4/57 ผลประกอบการของบริษํทจะพลิกมีกำไร และต่อเนื่องไปในปี 58 ที่บริษัทจะมีกำไรทุกไตรมาส โดยคาดว่า EBITDA Margin ในปีนี้ทำได้ตามเป้าหมายที่ 30% สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 23% ขณะเดียวกันคาดว่ารายได้ในปีหน้าจะเติบโตใกล้ 10% หรือ High Single digit เนื่องจากตั้งเป้าลูกค้า 4G มากขึ้นราว 3.5 ล้านราย จากสิ้นปีนี้คาดไว้ 90,000-100,000 ราย หลังจากมีอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานเพิ่มขึ้น และ ปัจจุบันTRUE เป็นผู้นำตลาด 3G และ 4G ที่มีการใช้งานจริง และยังคงเป้าเป็นที่หนึ่งตลาด 3G และ 4G อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจการให้บริการมือถือยังมีระบบ 2G อยู่ถึง 70% ของตลาดรวม
นอกจากนี้ TRUE สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม เพื่อร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน เพื่อจะลดการลงทุนซับซ้อนด้วย
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน TRUE กล่าวว่า บริษัทได้ชำระคืนหนี้สถาบันไปจำนวนทั้งสิ้น 5.6 หมื่นล้านบาทเมื่อไตรมาสที่ 3/57 แต่มีค่าปรับการจ่ายคืนก่อนกำหนดเวลา ทำให้ปัจจุบันอัตราหนี้สินสุทธิ(net debt) ต่อ EBITDA ปรับลงมาที่ 1.3-1.4 เท่าจากเดิมสูง 5 เท่าและมีนโยบายไม่เกิน 2 เท่าซึ่งบริษัทยังมีความสามารถกํ้เพิ่มได้หากมีความจำเป็นใช้เงินลงทุน และส่งผลให้ไตรมาส 4/57 กลับมีกำไรได้เพราะไม่มีภาระดอกเบี้ยและไม่มีการตัดค่าจำหน่ายของโครงข่าย 2G แล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงหุ้นกู้จำนวน4หมื่นล้านบาทซึ่งจะ roll over ต่อเนื่อง โดยจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่ทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน