สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,169 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 31,486 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,903 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.1% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,626 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB155A (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 7.1 ปี และ 0.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,424 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP196A) มูลค่า 822.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY164A) มูลค่า 282.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY156A) มูลค่า 210.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,315.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,775 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,315 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 590 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.51% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 15.18 จุด นักลงทุนยังคงติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจ ล่าสุดธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 58 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 - 4.0 ต่อปี จากการฟื้นตัวด้านการส่งออกและการลงทุนภาครัฐต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของจีนปรับเพิ่มขึ้น 7.7% ลดลงจาก 8% ในเดือน ก.ย. แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 590 ล้านบาท