สำหรับสินเชื่อพร้อมใช้“เคทีซี พราว"จะมีการจัดแคมเปญการตลาดสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกใหม่และสมาชิกปัจจุบันใช้บริการผ่อนชำระได้นานสุดถึง 36 เดือน เมื่อมียอดแบ่งชำระตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป รวมทั้งยังจัดแคมเปญช่วยแบ่งเบาภาระให้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้สมาชิกลุ้นรับรางวัลใหญ่ในการเคลียร์หนี้ พร้อมรับสิทธิลุ้นรับเงินคืนเข้าบัญชีเพื่อให้สมาชิกนำไปต่อยอดธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
"บริษัทเชื่อมั่นว่าด้วยแผนงานที่มีความคืบหน้าตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด จะทำให้ทิศทางการดำเนินงานและแนวโน้มการเติบโตของเคทีซีบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และมีผลประกอบการในปี 57 เป็นไปตามที่คาดการณ์"นายระเฑียร กล่าว
ในช่วง 9 เดือนภาพรวมของอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในไทยมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อุตสาหกรรมสินเชื่อบุคคลยังคงเติบโตได้ตามการใช้สอยในชีวิตประจำวัน แต่เป็นการเพิ่มในอัตราที่น้อยลง
สำหรับการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/57 ยังคงรักษาระดับการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล โดยมีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 63% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 7% หากเทียบกับไตรมาส 2/57 ทำให้ 9 เดือนแรก บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ทั้งสิ้น 1,330 ล้านบาท จากรายได้รวมเติบโตที่ 9% แม้ว่าบริษัทฯ จะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเพิ่มขึ้น 10% แต่ค่าใช้จ่ายทางการเงินและหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงที่ 6% และ 1% ตามลำดับ
ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.57 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 50,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 48,233 ล้านบาท โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 47,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 44,359 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 2.5 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น บัตรเครดิต กว่า 1.77 ล้านบัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 31,842 ล้านบาท
สินเชื่อบุคคล 683,008 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิ 14,951 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บัตรเครดิตลดเหลือ 1.9% และ NPL สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 1.2% ในขณะที่หนี้สูญได้รับคืนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเท่ากับ 452 ล้านบาท โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตที่ 7.5% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ขยายตัว 7.3%
บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 3/57 เท่ากับ 3,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ค่าใช้จ่ายการบริหารงาน 1,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาดจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่มากขึ้น แต่บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินให้ลดลง 5% รวมถึงหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญที่ลดลง 2% เป็นผลให้ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ เท่ากับ 2,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63% จากไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้า
"ไตรมาส 3/57 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) 24,990 ล้านบาท เป็นวงเงินของธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท และจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ 6,960 ล้านบาท อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 6.32 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า"นายระเฑียร กล่าว