นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมพร้อมรับออเดอร์ใหม่ รับการขยายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลงานใหม่ๆ ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทฯได้รับงานจากไฟฟ้านครหลวงและงานต่างประเทศ คาดว่าจะช่วยผลักดันผลงานในปีนี้
ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) กว่า 400 ล้านบาทโดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปีราว 400 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีหน้า โดยคาดว่าในช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้าจะมีการเปิดประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุนในโครงการภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
“บริษัทฯ มั่นใจว่าคำสั่งซื้อสินค้าจะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าประมูลงานภาครัฐ รวมถึงการเปิดตัวของโครงการใหม่ๆ จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์อัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ระดับ 800 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักจะมาจากยอดขายในประเทศประมาณ 80% แบ่งเป็นรายได้ที่มาจาก ภาครัฐบาล 20% ส่วนอีก 60% มาจากภาคเอกชน ขณะสัดส่วนรายได้อีก 20% มาจากต่างประเทศ ” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2557 บริษัทฯมีรายได้ 127.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 162.42 ล้านบาท จากการเติบโตยอดขายหม้อแปลงทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ จำนวน 16.65 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่บริษัทฯมียอดขายลดลงเนื่องจากสถานะการทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมส่งผลให้โครงการต่าง ๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนชลอตัว แต่ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นภาวะปกติของช่วงซบเซาของฤดูกาลในการดำเนินธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า