MK เผย Q3/57กำไรโต YoY-QoQรับรู้ฯโอนสูง-อัตรากำไรขั้นต้นดี แม้รายได้ลด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 14, 2014 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.มั่นคงเคหะการ(MK)เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/57 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 155.28 ล้านบาท คิดเป็น 0.18 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 97.46% จากไตรมาสที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 78.64 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 21.01% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 128.33 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จะต่ำกว่าก็ตาม เนื่องจากอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin)ประจำไตรมาส 3/57 เท่ากับ 22.17% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 17.06% และสูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 15.32%

ทั้งนี้ บริษัทรับรู้รายได้จากการขายและบริการ 674.32 ล้านบาท ลดลง 8.54% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมเช่นปีก่อน แต่เพิ่มสูงขึ้น 32.64% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งของรายได้จำนวน 59.54 ล้านบาทเป็นค่าเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต-ถนนพหลโยธิน ทำให้ที่ดินของบริษัทติดถนนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ใช้ทางเข้าจากถนนวิภาวดีรังสิต

อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่ได้รับชำระค่าทดแทนที่ดินดังกล่าว เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบประมาณของกรุงเทพมหานคร จึงได้บันทึกบัญชีเป็นลูกหนี้เวนคืนที่ดินเป็นทางหลวง

สำหรับโครงการหลักที่สร้างรายได้ในไตรมาสนี้ ได้แก่ ชวนชื่นโมดัส วิภาวดี, ชวนชื่นพระราม 7-สิรินธร และชวนชื่น จรัญฯ 3 ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการขายและบริการสำหรับช่วง 9 เดือน 1,604.37 ล้านบาท ลดลง 20.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,020.14 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากไม่รวมรายได้จากคอนโดมิเนียม บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา คิดเป็น 28.34%

ในไตรมาส 3/57 บริษัทมีกำไรเบื้องต้น 282.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 42.61% จากไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการจัดสรรที่สูงกว่าคอนโดมิเนียม ทำให้อัตราส่วนกำไรเบื้องต้น(Gross Profit Margin)ในไตรมาสนี้เท่ากับ 41.94% สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีการโอนคอนโดมิเนียมนั้นอยู่ที่ 34.24% และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 39.01%

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 110.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 103.10 ล้านบาท ทั้งนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 13.98% ในไตรมาส 3/56 เป็น 16.36% เนื่องจากฐานรายได้ที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ในไตรมาสนี้หลังจากหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว

ส่วนงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรเบื้องต้น 643.36 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.10% สูงกว่าปี 56 ซึ่งอยู่ที่ 34.18% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 312.83 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อัตรา SG&A to Sales เพิ่มขึ้นจาก 15.57% ใน 9 เดือนแรกของปี 56 เป็น 19.50% ในปีนี้เนื่องจากฐานรายได้ที่ต่ำลง กำไรสุทธิงวด 9 เดือนเท่ากับ 278.70 ล้านบาท คิดเป็น 0.32 บาทต่อหุ้น ลดลง 10.74% จากปีที่ผ่านมา อัตราส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.01% เพิ่มขึ้นจากอัตรา 15.23% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่อยู่ในระดับต่ำแม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาจาก 0.28 เท่าเป็น 0.34 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ