ส่วนบ้านเราก็มีเรื่องที่นักวิเคราะห์ต่างเตรียมปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ หลังจากที่ได้มีการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/57 แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่งบฯจะออกมาไม่ดี และไตรมาส 4/57 ก็ดูท่าว่าจะยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวด้วย ทำให้ไปกดดัน P/E ของตลาดฯ ซึ่งปัจจุบันตลาดฯมี P/E 16.9 เท่า แต่ปีหน้าก็ยังมองทิศทางที่ยังดีอยู่
นอกจากนี้ ให้จับตาตัวเลข GDP ของไทยในวันนี้ด้วยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,560-1,580 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(14 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,634.74 จุด ลดลง 18.05 จุด(-0.10%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,688.54 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด(+0.18%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,039.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด(+0.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 109.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 28.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 225.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเพิ่มขึ้น 20.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.31 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.14 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.26 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 พ.ย.)1,575.88 จุด ลดลง 1.33 จุด(-0.08%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 178.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 พ.ย.)ที่ 75.82 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 พ.ย.)ที่ 7.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.80/81 จับตาตัวเลข GDP ของไทย
- สศช.ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ยังไม่ฟื้น คาดทั้งปีโตไม่เกิน 1.5% เหตุเบิกจ่ายงบ-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้ากว่าคาด หวังเห็นผลเต็มที่ปีหน้า ขณะบริโภค-ลงทุนยังไม่ฟื้นตัว ด้านนักเศรษฐศาสตร์ประเมินปีหน้ายังมีความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ชี้ยังต้องมีมาตรการใหม่มากระตุ้นหนุนธปท.ลดดอกเบี้ย
- บริษัทจดทะเบียน กำไรงวด 9 เดือนปีนี้ทรุด รับแรงกดดันเศรษฐกิจในประเทศชะลอยาวตั้งแต่ปลายปีก่อน เผยกลุ่มการเงิน-อุปโภคบริโภคมีกำไรงวด 9 เดือนลดลงมากกว่า 50% ขณะโบรกเกอร์เล็งปรับประมาณการกำไร ระบุหากไตรมาส 1 ปีหน้าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น จ่อหั่นประมาณการกำไรทั้งปี
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า จะเสนอให้ปรับกฎเกณฑ์การเงินในการกำหนดให้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้รายย่อย (นาโนไฟแนนซ์) เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สามารถเข้าถึงทุนได้สะดวกที่สุด
- "มาร์ค โมเบียส" มองหุ้นไทยปีหน้ายังขึ้นต่อเนื่อง ให้ผลประกอบดีหลังการเมืองในประเทศเปลี่ยน พร้อมมั่นใจตลาดเกิดใหม่ระยะยาวน่าลงทุน เหตุเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวดีแซงหน้าตลาดพัฒนาแล้ว บวกทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศมีมาก หนี้ต่อจีดีพีต่ำ เตือนความตื่นกลัวในตลาดโลกเป็นความเสี่ยงสุด แต่เป็นโอกาสให้ผู้มีเงินสดช้อนซื้อหุ้นราคาต่ำ
- ธปท.เผยภาคธุรกิจยังคงได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นล่าสุด ณ ไตรมาส 3 วงเงินขอสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.75 แสนล้านบาท และไตรมาสก่อนหน้า 1.28 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดคงค้างสินเชื่อที่ภาคธุรกิจได้รับทั้งสิ้น 12.58 ล้านล้านบาท พบธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุด 2.50 แสนล้านบาทจากธุรกิจจัดหาที่อยู่อาศัยและการบริโภคส่วนบุคคลอื่นๆ ส่วนโครงการรถคันแรกหมดอายุคนขอสินเชื่อหดตัวชัดเจน
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยปัจจุบัน ธปท.ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจมีทิศทางที่ชัดเจน ทั้งความขัดแย้งการเมืองที่คลี่คลายและนโยบายการคลังที่มีความชัดเจนมากขึ้นจากการจัดทำงบประมาณปี 2557 และปี 2558 ความชัดเจนด้านการเบิกจ่ายเพื่อการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นนโยบายที่พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ได้ ในส่วนของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะรักษาพื้นที่ของการใช้นโยบายทางการเงินไว้อย่างสมดุล อย่างไรก็ตาม ประมาณการเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.1% หลังจากไตรมาสที่ 1 ติดลบ 0.6% และไตรมาสที่ 2 เติบโต 0.1%
*หุ้นเด่นวันนี้
- VGI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"เก็งกำไร"เป้า 20.80 บาท The Nielsen รายงานตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณา เดือน ต.ค. กลับเข้าสู่ทิศทางขยายตัว +3.2% mom และสื่อนอกบ้านฟื้นตัวโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม โดยเพิ่มขึ้น +7.3% mom ประเมินว่าเป็นบวกต่อ VGI เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจสื่อนอกบ้าน ทั้ง สื่อในระบบขนส่ง, สื่อในห้าง และ สื่อกลางแจ้ง ดังนั้น การขยายตัวของเม็ดเงินโฆษณาคาดว่าจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัท และส่งผลให้ราคาหุ้นฟื้นตัว และการเซ็นสัญญาบริหารพื้นที่โฆษณา Non Sale Floor กับ Tesco Lotus จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ มี.ค. 2558
- TUF(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า บาท ปรับเพิ่มเป้าหมายปี 2015 เป็น 95 บาท(หลังแตกพาร์เป็น 24 บาท) จาก 84 บาท โดย Re-rate PE ขึ้นจากเดิม 15 เท่าเป็น 17 เท่า หลังบริษัทสามารถยกระดับการทำกำไรให้สูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น นับตั้งแต่การซื้อแบรนด์ระดับโลก MWB ในปี 2011 การซื้อ MerAlliance และ King Oscar ซึ่งจะรวมผลการดำเนินงานเข้ามาเต็มปีในปี 2015 และมีแผนซื้อกิจการอีกในอนาคต พัฒนาการต่าง ๆ สะท้อนมาที่กำไรปกติปี 2011-14 ที่โตเฉลี่ย 9% สูงกว่าปี 2001-10 ที่โตเฉลี่ย 4% กว่า 2 เท่า
- CK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 30 บาท กำไรปกติ +25% Q-Q, +60% Y-Y ดีกว่าคาดถึง 46% ส่วนกำไรสุทธิ +285% Q-Q, +28% Y-Y เพราะมีกำไรจากการขาย BMCL
- AAV(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 4.80 บาท จากภาพรวมผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q57 และคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 4Q57 และต่อเนื่องถึงปี 2558