นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโตราว 2-3% จากปีนี้คาดว่าน่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3.6-3.7 พันล้านบาท โดยมองตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในปีหน้าจะเติบโตได้ 5% เป็นไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4-5% และจากฐานที่ต่ำในปีนี้
ส่วนกำไรสุทธิปีหน้าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้ตัดหนี้สูญติดต่อกันมา 6 ไตรมาส ในการเคลียร์ลูกหนี้ที่ไม่ดีออกไป ทำให้บริษัทฯ เก็บหนี้ได้จากลูกค้าที่มีคุณภาพและบริษัทฯ ปล่อยสินเชื่อน้อยลงนั้น ทำให้งบโฆษณาลดลงไปด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯคาดพอร์ตสินเชื่อปีหน้าจะโตไม่เกิน 5% จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 พันล้านบาท เนื่องจากมองตลาดโดยรวมปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 5% จากปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.7-1.8 ล้านคัน และตลาดรวมรถยนต์ในปีหน้า น่าจะยังคงทรงตัว จากปีนี้ตลาดรวมรถยนต์จะมีการผลิตไม่ถึง 9 แสนคัน
นายประพล กล่าวว่า ในปีนี้รายได้ปรับตัวลดลงกว่าปีก่อนเล็กน้อย จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 3,883.48 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้เร่งในการตัดหนี้สูญ ทำให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ปรับตัวลดลง และภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่มาก ทั้งเรื่องของการส่งออก การท่องเที่ยว ที่ยังฟื้นตัวไม่ค่อยดีจากการคงกฎอัยการศึก แต่อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4/57 จะเป็นช่วงฤดูกาล ซึ่งมองตลาดรถจักยานยนต์และรถยนต์ น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
"ต้นไตรมาส 4 นี้มองตลาดดีขึ้น ซึ่งเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล โดยปี 58 มีมุมมองต่อตลาดโดยรวมน่าจะเป็นบวก ซึ่งน่าจะเติบโตได้ 5% ตาม GDP ในระดับ 4-5% และจากฐานที่ต่ำในปีนี้ แต่การเติบโตคงจะเป็นแบบไม่เร็วมาก เนื่องจากคนยังมีหนี้ ขณะที่ในปีหน้าสิ่งที่ยังกังวลคือเรื่องของภัยแล้ง"นายประพล กล่าว
บริษัทฯมีแผนจะเปิดสาขาในประเทศอีกไม่เกิน 5 สาขา จากปีนี้มีสาขาอยู่ที่ 90 สาขา ซึ่งจะใช้งบลงทุนรวม 15 ล้านบาท และลงทุนระบบคอมพิวเตอร์ (IT) คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 20-30 ล้านบาท
ส่วนสาขาในต่างประเทศนั้นบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษา โดยขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ 2-3 ประเทศ ซึ่งสนใจประเทศพม่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย จากที่ปัจจุบันมีการเปิดสาขาแล้วที่ประเทศกัมพูชา พนมเปญ และที่ประเทศลาว เวียงจันทร์