สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 17 พ.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 64,608 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 32,815 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,735 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.8% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,161 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB155A (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 7.1 ปี และ 0.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,915 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL154A) มูลค่า 323.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC157A) มูลค่า 203.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL163B) มูลค่า 128.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 655.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,719 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,398 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 694 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.49% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.04%
Yield Curve ปรับลดลงเกือบทุกช่วงอายุโดยเฉพาะตราสารอายุ 5 ปี ลดลงประมาณ 4 bps. ล่าสุดสภาพัฒน์ฯประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3/2557 ขยายตัว 0.6% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับที่ขยายตัว 0.4% ในไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ สภาพัฒน์ฯคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวเพียง 1% ซึ่งลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดไว้ที่ 1.5-2% ทางด้านต่างประเทศล่าสุดตัวเลข GDP ของญี่ปุ่น ไตรมาส 3/2557 หดตัวลง 1.6% ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 2% สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 694 ล้านบาท