บริษัทคาดว่ากำไรในปีหน้าจะสูงขึ้นจากปีนี้ที่หดตัวลงจากปี 56 ที่มีกำไร 501.54 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำตาลลดลงมาอยู่ที่ 16 เซนต์/ปอนด์ จาก 18-19 เซนต์/ปอนด์ส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทปรับลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ ทำให้ธุรกิจน้ำตาลมีความเสี่ยงต่ำลง โดยเฉพาะจากปัจจัยที่บราซิลในฐานะผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 1 ของโลกประสบปัญหาภาวะแห้งแล้ง ทำให้ซัพพลายลดลง
ปัจจุบัน KBS มีสัดส่วนการส่งออกน้ำตาล 70-75% เน้นในแถบเอเซีย ส่วนอีก 25-30% จำหน่ายในประเทศ
นายทัศน์ กล่าวว่า บริษัทฯตั้งงบลงทุนในปีหน้าราว 3,500 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตโรงงานน้ำตาล เป็น 3.5 หมื่นตันอ้อย/วัน จาก 2.3 หมื่นต้นอ้อย/วัน จำนวน 2,500 ล้านบาท และสร้างโรงงานผลิตเอทานอล กำลังการผลิต 2 แสนลิตร/วัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนธ.ค.นี้ และจะเริ่มก่อสร้างทันที ซึ่งจะงบลงทุนในปีนี้ราว 200 ล้านบาท และปีหน้าอีก 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 58 และรับรู้รายได้เข้ามาในปี 59
"เราคาดว่าสัดส่วนรายได้ปี 58 จะมาจากน้ำตาล 90% โรงไฟฟ้า 10% และตั้งเป้าหมายในปี 60 จะมีสัดส่วนรายได้จากเอทานอล 2,200 ล้านบาท โรงไฟฟ้า 500 ล้านบาท และน้ำตาล 8,000-9,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะรุกตลาดในประเทศอาเซียนเพิ่มมากขึ้น สนใจพม่าและกัมพูชา จากปัจจุบันมีการส่งออกไปยังลาวแล้ว ขณะเดียวกันก็มีการส่งออกน้ำตาลไปยังเกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันออกกลางอีกด้วย แต่ยังคงเน้นแถบอาเซียนเป็นหลัก"นายทัศน์ กล่าว