ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พ.ย.57 บริษัทบริหารสินทรัพย์เจ จำกัด บริษัทย่อยของ JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อส่วนบุคคลกับบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งหนึ่ง โดยสัญญามีมูลค่าหนี้เท่ากับ 6,458 ล้านบาท สนับสนุนการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในปีนี้ของบริษัทฯ ให้เกินเป้าหมายที่วางไว้ โดยหนี้ก้อนดังกล่าวเป็นหนี้ที่บริษัทได้พิจารณาแล้วว่ามีคุณภาพ ได้รับอัตราผลตอบแทนที่คุ้มค่าและสูงกว่าอัตราต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ
ทั้งนี้ จากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก บริษัทก็สามารถเดินหน้าซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง และมากกว่าปกติจากเป้าหมายเดิมจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในปีนี้เพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท สนับสนุนพอร์ตบริหารหนี้สิ้นปี 57 ให้อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท จากปี 56 มีพอร์ตบริหารหนี้อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/57 คาดว่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของ JMT ในปีนี้ บริษัทฯ มีทิศทางเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/57 และช่วงเดียวกันของปี ก่อนจากการทยอยซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีและบางส่วนจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปี 2557 ส่วนการจัดเก็บหนี้ ก็สามารถทำได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้ จึงมั่นใจเป้าหมายกำไรสุทธิทั้งปี 57 ที่วางไว้จะเติบโตอีก 40-50% จากปี 56 อยู่ที่ 75.08 ล้านบาท จะเป็นไปตามนั้นได้ไม่ยาก
"หนี้ที่เราซื้อมาตั้งแต่ต้นปีจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปีนี้ส่วนหนึ่งส่วนหนี้ที่ซื้อมาตั้งแต่ช่วงกันยายนเป็นต้นไปจะรับรู้รายได้ในปีหน้า ไม่หมดเท่านี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างประมูลซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มเติมอีก 2 - 3 ดีล จึงมั่นใจว่าผลงานในปี 57 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 58 จะเป็นปีที่ดีของเรา"นายปิยะกล่าว