ทั้งนี้ คาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 58 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างโดยตรง เนื่องจากความต้องการในตลาดจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของคอนกรีตที่จะต้องนำมาใช้ตั้งแต่การเริ่มต้นงานโครงสร้าง งานระบายน้ำต่อเนื่องไปถึงส่วนอื่นๆจนโครงการเสร็จสมบูรณ์
ปัจจุบัน CCP ได้พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรสายการผลิตตั้งแต่ต้นปี 57 เป็นต้นมา มีความพร้อมในการรับงานคอนกรีตหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว และปีนี้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายแม้จะไม่มีงานโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นการที่ภาครัฐเริ่มกลับมาดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง เอกชนเริ่มกลับมาลงทุน จะยิ่งส่งผลดีกับบริษัท เพราะมีโอกาสในการเข้ารับงานโครงการใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ Backlog มีโอกาสในการเติบโตมากกว่าเดิม
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า การลงทุนในภาครัฐเมื่อผลักดันออกมาย่อมส่งผลต่อการฟื้นตัวของการลงทุนของภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย ท่องเที่ยว ค้าปลีก ฯลฯที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ความต้องการในตลาดอิฐมวลเบาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทได้มีแผนรองรับทั้งในส่วนของการขยายกำลังการผลิต และการจัดการด้านขนส่งเพื่อให้สามารถกระจายสินค้าครอบคลุมพื้นที่ภาคต่างๆที่นอกเหนือจากภาคตะวันออกไว้แล้ว