รวมทั้งคาดว่ากำไรสุทธิในปีหน้าก็จะเติบโตก้าวกระโดดจากปีนี้ที่น่าจะมีกำไรกว่า 200 ล้านบาทด้วย
สำหรับผลประกอบการในปี 57 นี้บริษัทคาดว่าทั้งรายได้และกำไรอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย โดยรายได้น่าจะจบที่ 1,200 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 1,500 ล้านบาท และกำไรสุทธิเดิมคาด 300 ล้านบาท แต่อาจจะทำได้กว่า 200 ล้านบาท เนื่องจากการส่งมอบงานล่าช้าออกไป จึงไม่สามารถบันทึกเป็นรายได้ได้ แต่ก็จะทำให้งานที่ล่าช้าก็จะเลื่อนไปรับรู้ในปี 58 เพิ่มขึ้นแทน
"หลังการเมืองดีขึ้นแต่ที่สถานการณ์ที่นิ่งก็มีสะดุดนิดหน่อย เรื่องการปล่อยงบฯออกมา หรือถึงประมูลได้แล้วทำสัญญาแล้วแต่ยังรับรู้รายได้ไม่ทัน หรือยังไม่ส่งมอบงาน เป็นเรื่องขั้นตอนเล็กๆน้อยๆทำให้รายได้ไม่ตามเป้า แต่จะไปทำให้คาดปี 58 รายได้จากธุรกิจเครื่องมือแพทย์จะเติบโตไปที่ 2,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการสั่งซื้ออุปกรณ์การแพทย์ของโรงเรียนแพทย์ที่มีการขยายทุกปี โรงพยาบาลรัฐบาลที่ยกระดับ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ที่จะต้องสั่งซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติมให้ทันสมัย ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนแม้จะขยายตัวน้อยกว่า แต่ก็ต้องอัพเกรดขึ้นไป"นายธีรวุทธิ์ กล่าว
นายธีรวุทธิ์ กล่าวว่า บริษัทจะชำระเงินค่าหุ้น บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) ในสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวนรวม 153,395 หุ้น รวมเป็นเงินมูลค่า 3,500 ล้านบาท เป็นส่วนที่ EFORL ต้องลงทุนราว 60% หรือ 1.5 พันล้านบาทภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ จากนั้นก็จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันทีตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.57 เป็นต้นไป โดยเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้สถาบันการเงิน 1.4 พันล้านบาท และกระแสเงินสดของบริษัทอีก 100 ล้านบาท
จากนั้น บริษัทจะเดินหน้าขยายสาขาวุฒิศักดิ์คลีนิค ซึ่งปัจจุบันมีสาขาในไทย 120 สาขา และต่างประเทศ 11 สาขา ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม โดยในปีหน่าจะบุกตลาดอาเซียนด้วยการขยายสาขาในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงนอกอาเซียนคือ อินเดีย และจีน ซึ่งทั้ง 4 ประเทศเป็นตลาดใหญ่มาก ซึ่งจะทำให้ EFORL ได้รับประโยชน์จากการขยายสาขาของวุฒิศักดิ์คลีนิคด้วย ส่วนสาขาในประเทศถือว่าครอบคลุมพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเข้าถือหุ้นเพิ่มในบริษัท แดทโซ เอเชีย คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม QUADRA จากประเทศอิตาลี เพิ่มเป็น 25% ภายในต้นปี 58 จากปัจจุบันถืออยู่ 18% ซึ่งตามเงื่อนไขบริษัทสามารถถือได้ถึง 75% แต่จะเป็นการทยอยเพิ่มการลงทุน
นางวิมลวรรณ มิลินทจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แดทโซ เอเชียฯ กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวนวัตกรรมความงาม That'so ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีนาโนอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสวย ตั้งแต่ใบหน้า กระชับรูปร่าง รวมถึงแก้ปัญหาผิวพรรณ และการปรับเปลี่ยนสีผิวเป็นสีขาวหรือสีแทนภายในระยะเวลารวดเร็วเพีง 15 นาที่ต่อครั้ง โดยจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางของตลาดเอเชีย ซึ่งจะมีการเจรจาหาพันธมิตรเพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตเครื่องสำอางขึ้นในประเทศไทยภายใน 1-3 ปี
บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตช่วง 3 ปีแรกคาดว่าจะทำยอดขายได้กว่า 3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 3.5% จากมูลค่าตลาดด้านความงามของเอเชีย โดยจะมาจากรายได้การขายอุปกรณ์และนวัตกรรม บริการทรีทเม้นท์และผลิตภัณฑ์ Home use และรายได้จากใบอนุญาตสิทธิการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าให้กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย 38 ประเทศ ซึ่งล่าสุด บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับ VIVI POWER HOLDING LIMITED พันธมิตรในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ฮ่องกง มาเก๊า จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย