ปัจจัยบบวกที่แนวโน้มหลายประเทศจะมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน แต่ในด้านลบก็ยังมีความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ ชะลอตัว และความตึงเครียดการประท้วงในฮ่องกง จึงทำให้ตลาดผันผวน อย่างไรก็ดี กลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นจากที่มีความชัดเจน โครงการรถไฟทางคู่ และการออกมาตรการคุ้มหุ้นร้อนของตลาดได้ตอบรับข่าวไปแล้ว
แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้น่าจะผ้นผวน ให้แนวรับที่ 1,050 จุด และแนวต้านที่ 1,065 จุด แนะให้เล่นเก็งกำไร รอ เปิด long ในจังหวะย่อตัว หากหุ้น big cap มีแรงซื้อต่อเนื่อง โดยอาจเริ่มทยอยเข้าซื้อและคาดว่าจะมีแรงซื้อกลับชัดเจนในเดือน ธ.ค.
ส่วนราคาทองคำยังเคลื่อนไหวลักษณะ sideway ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว โดยรอรายงานการประชุมเฟด และตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐ หากตัวเลขออกมาดีก็จะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำ จึงมีโอกาสย่อตัวกลับ นอกจากนี้จับตาทางการอินเดียอาจปรับเพิ่มมาตรการจำกัดการนำเข้าทองคำ หลังจากเดือนก่อนมีการนำเข้าทองคำพุ่งสูงขึ้น
ในช่วงระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำยังแกว่งตัว sideway ถ้าไม่ผ่าน 1,205 เหรียญ/ออนซ์ อาจย่อตัวลงมาที่ ระดับ 1,190 เหรียญ/ออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับ แต่หากสามารถผ่านระดับ 1,205 เหรียญ/ออนซ์ อาจขึ้นไปที่ 1,212 เหรียญ/ออนซ์ และแนว ต้านถัดไปที่ 1,220 เหรียญ/ออนซ์
แนะให้เล่นในกรอบ 1,190-1,205 เหรียญ/ออนซ์ หากหลุดระดับ 1,190 เหรียญ/ออนซ์ จะลงต่อแนะให้ short ตาม
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,053.86 จุด ลดลง 2.51 จุด, -0.24%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 138,696 1,439,755 Total Futures 138,320 1,429,779 SET50 Index 57,086 237,906 Sector Index - - Single Stock 73,272 1,165,197 Precious Metal 7,515 21,937 -GF10 6,644 17,599 -GF50 871 4,338 -Silver - - Curency 336 4,412 Energy 111 327 Interest Rate - - Total Options 376 9,976 Call 156 4,605 Put 220 5,371 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -17,212 -3,216 +20,428 Options +31 -1 -30