นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศจะเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นหลังจากมีการชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตอกย้ำให้กฏอัยการศึกที่ยังประกาศใช้อยู่มีแนวโน้มจะยังคงไว้ ส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนต่างชาติที่ยังไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ อีกทั้งมาตรการสกัดหุ้นร้อนวานนี้จะมีผลกดดันตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ รับปัจจัยจากเฟดยังไม่มีเวลาที่แน่ชัดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทั้งนี้ให้ติดตามปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ การประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือยพฤศจิกายนของจีน ยุโรป และสหรัฐฯ
พร้อมให้แนวต้าน 1,585-1,586 จุด แนวรับ 1,570-1,575 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,685.73 จุด ลดลง 2.09 จุด(-0.01%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.71 จุด ลดลง 26.73 จุด(-0.57%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,048.72 จุด ลดลง 3.08 จุด(-0.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 118.94 จุด,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 27.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.94 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.27 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 พ.ย.) 1,577.55 จุด ลดลง 3.72 จุด(-0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 645.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 พ.ย.)ที่ 74.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 พ.ย.)ที่ 7.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.84/85 อ่อนค่าต่อเนื่องตามเยน-เฟดยังไม่มีมาตรการเพิ่ม
- "สมคิด" เผยเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว สร้างแรงกดดันรัฐบาลให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เตือนนโยบายระยะสั้น ส่งผลดีชั่วคราว แต่สร้างปัญหาระยะยาวเหมือนในอดีต ด้าน "บรรยง" ชี้ปีหน้าเดินหน้าปฏิรูป มั่นใจทำได้รัฐบาลนี้ แนะเร่งแก้ปัญหาคอร์รัปชัน "ทียูเอฟ"เตือนอย่าหวังส่งออกปีหน้า คาดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น
- บอร์ดตลาด เพิ่มยาแรงสกัดหุ้นร้อนแรง ตีกรอบหุ้นซื้อขายผิดปกติเกินจริง สั่งห้ามชำระราคาในวันเดียว พร้อมเทรดด้วยเงินสด 3 สัปดาห์ ห้ามใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน มั่นใจแตะเบรกหุ้นร้อนได้ทันที ด้านนักวิเคราะห์มองมาตรการไม่แรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หวั่นกลัวเจอแรงเก็งกำไรก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้
- บอร์ดทีโอที ผ่าตัดองค์กรใหม่ ลดสายงานธุรกิจซ้ำซ้อนจาก 13 สายงานเหลือ 7 สายงาน หวังลดรายจ่าย พลิกฟื้นสถานะดีขึ้นจากวิกฤติ คาดปีนี้ ขาดทุนลดเหลือ 4,572 ล้านบาท จากคาดการณ์เดิม 7,800 ล้านบาท ด้านสคร.ประเมินผลดำเนินการล่าสุด ยังอยู่ขั้น "วิกฤติ" ต่อเนื่องจากปีก่อน เผยค่าใช้จ่ายไตรมาสแรกพุ่ง 22.87%
- อสังหาฯ ชี้รัฐลงทุนเมกะโปรเจคระบบรางดันความต้องการที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้าโตต่อเนื่อง 3-5 ปี ประเมินปีหน้า โต 5% คาดการแข่งขันรุนแรงจากรายเล็กแห่เข้าตลาด ขณะรายใหญ่ดันโครงการใหญ่เพิ่มขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- ANAN(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"เก็งกำไร"เป้า 4.60 บาท มีความเป็น Laggard สูง ราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมา -0.52% ผลงาน 3Q57 ต่ำสุดในรอบปีไปแล้ว แนวโน้ม 4Q57 คาดเติบโต qoq จากเริ่มทยอยรับรู้ Idoe Del Ray สุขุมวิท 64 ที่เลื่อนจาก 3Q57 รวมถึงมี Backlog กว่า 3,900 ล้านบาท ทำให้ภาพทั้งปี 57 คาดรายได้โต 14.4% yoy เป็น 10,821 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,113 ล้านบาท คาดเป็นหนึ่งใน 11 หลักทรัพย์ที่จะได้รับเลือกเข้า SET100 มีผลตั้งแต่ต้นม.ค.58
- RS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า11.80บาท กำไร 3Q14 โตสูงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งกำไรบอลโลกและกำไรจากธุรกิจหลักที่ฟื้นตัวแรงจากไตรมาสก่อน กำไรที่ดีกว่าคาดและมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อธุรกิจสื่อทีวีดิจิตอล ช่อง 8 ที่มี Rating ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2014 ขึ้น 36% เป็น 445 ล้านบาท โต 12.7% Y-Y แม้คาดกำไรสุทธิ 4Q14 ลดลงจากฐานสูงไตรมาสก่อน แต่ยังเพิ่ม Y-Y ส่วนปี 2015 ปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 41% เป็น 524 ล้านบาท ยังโต 18.0% Y-Y แม้ไม่มีกำไรจากบอลโลก แต่จะได้ชดเชยจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาในสื่อทีวีขึ้นเท่าตัว ไม่มีตั้งสำรองจาก Laliga และการยกเลิกคลื่นวิทยุที่ขาดทุน
- RICHY (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า4.7–5.1 บาท ราคาหุ้น Laggard กลุ่มอสังหาฯ แนวโน้ม Q4/57 โตเด่น (รับรู้รายได้โครงการคอนโดฯ ริชพาร์ค@เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 1.7 พันล้านบาท คาดรับรู้ราว 50% ในไตรมาส 4/57) เตรียมเปิดตัวคอนโดฯติดสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ 22 พ.ย.(ปลดล๊อกความกังวลของตลาดฯว่าตั้งแต่เข้า IPO ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ) PE ไม่แพง9เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่เฉลี่ย 14-15 เท่า)