(เพิ่มเติม) PK เล็งบุกพม่าเปิดสนง.ปี 58 เพิ่มสัดส่วนส่งออกเป็น 50%ใน 3-5 ปีจาก 20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 20, 2014 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล กรรมการผู้จัดการ บมจ.พัฒน์กล(PK) กล่าวว่า ในปี 58 บริษัทจะเปิดสำนักงานในประเทศพม่าเพื่อให้ครอบคลุมตลาดอาเซียน หลังจากเข้าไปตั้งสำนักงานธุรกิจในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนามแล้ว พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกต่อรายได้ในประเทศเป็น 50:50 ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีสัดส่วนตลาดในประเทศ 80% และตลาดต่างประเทศ 20% และตั้งเป้าในปี 58 จะมีรายได้จากการส่งออกเพิ่มเป็น 1 พันล้านบาท จากปีนี้ 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งพัฒนา 4 ธุรกิจหลักเพื่อรองรับอุตสาหกรรมอาหารและส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น กลุ่มธุรกิจอาหารเหลว กลุ่มธุรกิจวิศวกรรมแปรรูปอาหาร และ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง

นายแสงชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถนำหุ้น PK กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้ หลังตอนนี้ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขแล้ว โดยบริษัทได้ยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ไปเมื่อเมื่อ 10 ต.ค.57 และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี ผลประกอบการในปี 57 บริษัทมั่นใจว่าจะพลิกเป็นกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 82 ล้านบาท เนื่องจากงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิแล้ว 132 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีทั้งรายได้และกำไร เพราะมีการส่งมอบเครื่องจักรให้ลูกค้ามากที่สุด ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลกำไรติดต่อกัน 4 ไตรมาสตามเกณฑ์ของ ตลท.และมีการปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยล้ว โดยขณะนี้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก จึงพร้อมนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายอีกครั้ง

สำหรับปี 58 ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะรายได้ 4,200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้(backlog)ราว 1,700 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ถึงไตรมาส 2/58 และระหว่างทางยังเชื่อว่าจะมีงานใหม่เพิ่มเข้ามาอีก

นายแสงชัย กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนในปีหน้า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้สร้างโรงงานใหม่ย่านพระราม 2 ราว 200 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างต้นปี 58 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี เพื่อขยายการผลิตเพิ่มอีก 30% ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากการกู้สถาบันการเงิน 50% และกระแสเงินสดของบริษัท 50% ส่วนเงินทุนอีก 100 ล้านบาทใช้เพื่อซื้อเครื่องจักร โดยขณะนี้บริษัทมีเงินสดราว 400-500 ล้านบาทเพียงพอในการขยายธุรกิจไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ