สำหรับการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 นั้น ส่วนแรกจะเร่งก่อสร้างทางวิ่งสำรอง(รันเวย์) ความยาว 2,900 เมตร และหลุมจอด 28 หลุมจอด และอุโมงค์ระบบขนส่ง วงเงินลงทุน 6.5 หมื่นล้านบาท และงานออกแบบและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1(Midfield Satellite) วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง วงเงิน 3,000 ล้านบาท และท่าอาอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 5,000 ล้านบาท รวมทั้งแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าปลอดอากร
"ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาและยังไม่สามารถระบุกรอบวงเงินที่ชัดเจนได้ ส่วนจัดหาแหล่งเงินทุนมาลงทุนนั้นอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะได้ข้อยุติภายในเดือนมกราคม 2558"นายประสงค์ กล่าว
ในวันนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) โดยมีผู้บริหาร ทอท.รายงานผลการดำเนินงานให้รับทราบ โดย พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะเน้นเรื่องบริการและความปลอดภัย ซึ่งผู้บริหาร ทอท.ได้รายงานเรื่องการปรับปรุงการให้บริการในทุกด้าน และเน้นดูแลกรณีการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่า โดยให้ความมั่นใจว่า จะเป็นด่านสกัดกรณีที่มีผู้ติดเชื้อเข้ามาได้แน่นอน
ส่วนกรณีที่บางช่วงเวลามีผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่นทำให้มีผู้โดยสารตกค้างหรือใช้เวลาที่บริเวณตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) นานเกิน 1 ชั่วโมงนั้น ตนเองได้กำชับให้หามาตรการเสริม เช่น เพิ่มเจ้าหน้าที่ หรือจัดช่องทางด่วนแบบ Fast Track เพื่อจัดการบริการให้รวดเร็วขึ้น และลดระยะเวลาจาก 1 ชั่วโมงให้เหลือ 45 นาที, 30 นาที และ 15 นาที ตามลำดับให้ได้ เพื่อให้บริการที่ดีขึ้น
ส่วนการดูแลด้านความปลอดภัยนั้นจะมีการพัฒนาบุคลากร และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในด้านรักษาความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงอำนาจหน้าที่ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทอท.
สำหรับการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จะมีการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง การปรับปรุงลานจอด อาคารผู้โดยสารและอุโมงค์ระบบขนส่ง และตั้งเป้าหมายให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้า โดยมีสินค้าทั่วไปและสินค้าปลอดอากร