ส่วนผลประกอบการในปี 57 ยังเชื่อว่าจะสามารถทำกำไรได้ แม้ว่าช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จะขาดทุนราว 246 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/57 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์การเมืองในไทยจะกลับมาท่องเที่ยวมากขึ้น
"ปีนี้จำนวนผู้โดยสารของเรามีการเติบโต แต่เรามีการทำโปรโมชั่นเพื่อที่จะรักษาระดับนักท่องเที่ยว ทำให้ yield ของบริษัทฯลดลง และเครื่องบินที่เราสั่งไปทำให้จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 23% แต่ผู้โดยสารเติบโตเพียง 16% จากปกติที่ผู้โดยสารจะโตกว่า อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าช่วงไตรมาส 4 สถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้นจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯออกมาเป็นบวกได้"นายทัศพล กล่าว
นายทัศพล กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการในปี 58 แม้ว่าในหนังสือชี้ชวนในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ระบุว่าจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลในช่วง 3 ปีแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม เนื่องจากมั่นใจว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มมีความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย แต่อาจจะยังเพิ่มขึ้นไม่มากนักหากกฎอัยการศึกยังคงมีอยู่
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรสุทธิใน 4-5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะต่ำกว่า 10% หรือเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยบริษัทจะมีการขยายเส้นทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58
ส่วนปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นกับกิจการของแอร์เอเชียเอ็กซ์ในมาเลเซีย ไม่ได้มีผลกระทบถึง AAV เนื่องจากบริษัทยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และจะไม่มีการเลื่อนแผนรับมอบเครื่องที่กำหนดไว้