นายกฤษดา ชวนะนันท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์(VPO)เปิดเผยว่า หุ้น VPO จะเป็นทั้งหุ้น Growth stock และ Dividend Stock สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทฯมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จากจุดแข็งในการเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบหนึ่งในสามบริษัทที่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ประกอบกับ โรงงานใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยระดับโลก ส่งผลให้น้ำมันปาล์มดิบของบริษัทฯ มีคุณภาพได้รับการยอมรับในระดับสากล
นอกจากนี้ ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอุปโภคบริโภค และการใช้เป็นไบโอดีเซลซึ่งเป็นพลังงานทดแทน รวมทั้งเมื่อเปิด AEC ในปี 2558 ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ด้านนายพากพูม วัลลิสุต ประธานกรรมการ บริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า VPO เป็นบริษัทที่มีศักยภาพของกำลังการผลิตสูงที่สุดในจังหวัดชุมพร ส่งผลให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในเรื่องช่องทางการจำหน่ายที่มีมากกว่าผู้ผลิตรายอื่น โดยมีลูกค้าที่จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบในประเทศรายใหญ่เป็นพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่ บมจ. มรกตอินดัสตรี้ส์ บจ.น้ำมันพืชปทุม และ บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพียงไม่กี่รายที่สามารถส่งออกได้ด้วยตนเอง โดยมีลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ Cargill International Trading Pte. Ltd. และ ADM Hamburg Aktiengesellschaft เป็นต้น และคาดว่า จากการเปิด AEC ในปี 2558 นี้ จะยิ่งเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการสร้างผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นไปอีก บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการเติบโตของกำไรสุทธิ จึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ และซื้อผลผลิตปาล์มในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากบริษัทฯมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว