บริษัทมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจต่อจากนี้จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และภาครัฐจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้ภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจ SME มากขึ้นด้วย แต่จะยังคงรักษาระดับการปล่อยสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให้อยู่ในสัดส่วน 80% ของพอร์ตทั้งหมด เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านการผิดชำระหนี้ในระดับต่ำ และจากนี้ไปจะเน้นปล่อยสินเชื่อที่มีมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ คาดว่ากำไรสุทธิคาดว่าจะสามารถทำได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีกำไรราว 32.10 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเน้นเพิ่มสินเชื่อภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าภาครัฐ รวมทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนดอกเบี้ย
ขณะที่รายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพียง 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 104 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายก่อนหน้านี้ที่วางไว้จะเติบโตราว 30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองทำให้การปล่อยสินเชื่อภารัฐลดลง และคาดว่าพอร์ตสินเชื่อสิ้นปีนี้จะปิดที่ 800 ล้านบาท หรือเติบโตได้ราว 15-20% จากสิ้นปี 56