นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร MAJOR กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มเป็น 1,000 โรง แบ่งเป็นในประเทศ 400 โรง และต่างประเทศในกลุ่ม CLMV ทั้งกัมพูชา, ลาว, พม่า, และเวียดนาม อีกจำนวน 100 โรง จากที่บริษัทมีโรงภาพยนตร์อยู่แล้วกว่า 500 โรง ภายใต้สาขารวมทั้งสิ้น 77 สาขา โดยวางงบลงทุนราว 5,000 ล้านบาท คาดหวังรายได้เพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาทภายในปี 63 และภายใน 3-5 ปี สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2-3%
ทั้งนี้ ในปี 58 บริษัทมีเป้าหมายขยายโรงภาพยนตร์ในประเทศเพิ่มกว่า 100 โรง และปรับปรุงสาขาเดิม ซึ่งจะใช้งบลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนการขยายโรงภาพยนตร์ในกลุ่มประเทศ CLMV จะเริ่มที่ลาวเป็นที่แรก ตั้งเป้าขยาย 1 สาขา จำนวน 5-6 โรง โดยจะเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้อยู่การเจรจา ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก แต่คาดว่าจะใช้งบลงทุน 12 ล้านบาทต่อโรง
นายวิชา กล่าวว่า บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้-กำไรปี 58 จะเติบโตได้ 15-20% จากปีนี้ที่รายได้และกำไรจะเติบโตไปตามเป้าหมาย 10% เป็นผลจากพฤติกรรมการชมภาพยนตร์เฉลี่ยต่อคนต่อปีเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากยอดขายตั๋วภาพยนตร์ คาดว่าปีนี้จะมียอดขายราว 30 ล้านใบ ประกอบกับการขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มมากขึ้นด้วย
"ปีหน้าเราตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% ขณะที่กำไรก็จะเติบโตไปตามรายได้เช่นกัน โดยมองว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมหนังจะมีแนวโน้มดีขึ้น โดยหนังของ MAJOR ที่จะเข้าฉายน่าจะอยู่ราว 12-15 เรื่อง และหนังฟอร์มยักษ์จากต่างประเทศอีกจำนวนมาก อีกทั้งเราก็มีแผนจะขยายโรงภาพยนตร์ไปยังกลุ่มลูกค้าต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการชมภาพยนตร์ที่มีมากขึ้น ราว 100 โรงทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด คาดหวังสัดส่วนรายได้จากต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า"นายวิชา กล่าว