การประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนการจัดหาเงินทุนของ BJC สำหรับธุรกรรมดังกล่าวที่มีบทสรุปชัดเจน ทั้งนี้ คาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งในระดับปานกลางหลังการซื้อกิจการ โดยที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อเดือนตุลาคม 2557 ได้อนุมัติการทำธุรกรรมในครั้งนี้และเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทรวม 16,219.5 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนส่วนหนึ่งในการทำธุรกรรมดังกล่าว บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 360.4 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วนหุ้นใหม่ 2 หุ้นต่อหุ้นเดิม 9 หุ้น บริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 73.8% ของหุ้นทั้งหมดได้แสดงเจตจำนงที่จะจองซื้อและชำระเงินเต็มจำนวนสำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่ได้รับสิทธิ์และจะดำเนินการซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือในกรณีที่ผู้ถือหุ้นบางรายไม่ได้ใช้สิทธิ์
การซื้อกิจการในครั้งนี้จะใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ใหม่และการระดมทุนในสัดส่วน 1 ต่อ 1 ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังการซื้อกิจการ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 50%-53% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ของอันดับเครดิตในระดับนี้ ในส่วนของการที่จะได้รับประโยชน์และการผสานพลังทางธุรกิจจาก METRO Vietnam นั้นอาจใช้เวลาพอสมควร ซึ่งทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะบริหาร METRO Vietnam ได้เป็นอย่างดีและประสบความสำเร็จในการรวมกิจการเข้ามาในกลุ่มได้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีของธุรกิจหลักของบริษัท ในขณะที่ความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดเวียดนามจะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิต อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงได้หากการซื้อกิจการในครั้งนี้ก่อให้เกิดภาระทางการเงินแก่บริษัทมากขึ้น