เอ็มเอฟซียังมุ่งมั่นที่จะบริหารกองทุนเปิด SI5A1 เพื่อให้เข้าเป้าหมายเพื่อที่จะเลิกกองทุน โดยเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.15 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOVในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 110 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว แต่หากเกิน 10 เดือน กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะเลิกกองทุนร้อยละ 10 ต่อไป
ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จของการบริหารกองทุนเปิด SI5A1 คือการลงทุนในช่วงจังหวะเศรษฐกิจไทยและประเทศแถบเอเชียที่ดี ซึ่งจากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซีมองว่า เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากมีรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นไทยยังซื้อขายที่ระดับ P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นในภูมิภาค และมีโอกาสที่การไหลเข้าของเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มได้ในอนาคต
ด้านสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่น ธนาคารกลางของญี่ปุ่นมีมุมมองเชิงบวกกับเศรษฐกิจ หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินมาตั้งแต่ปลายปี 2555 ส่วนรายได้จากประชากรในเอเชียแปซิฟิค โดยเฉพาะในจีนขยายตัวสูง ส่งผลให้มีศักยภาพในการใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย ซึ่งคนจีนใช้บริการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ธุรกิจและอุตสาหรรมที่เกี่ยวเนื่องมีการขยายตัวสูงขึ้น