สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 26 พ.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 60,648 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 35,405 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 58.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 22,607 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 37.3% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 783 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB446A (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 7.1 ปี และ 29.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,936 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT174A) มูลค่า 198.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)(UMI177A) มูลค่า 150.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP243A) มูลค่า 87.6 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 436.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,447 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 601 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,351 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.47% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 30 ปี ประมาณ 2 bps. นักลงทุนยังคงติดตามการทำธุรกรรม Bond Switching ของกระทรวงการคลัง ซึ่งวันนี้เป็นวันจัดสรรพันธบัตร (Allotment Date) ซึ่ง สบน.ได้ประกาศอัตราผลตอบแทนของ Destination Bond รุ่น LB176A เท่ากับ 2.19%, LB191A เท่ากับ 2.55%, LB21DA เท่ากับ 2.72% และ LBA37DA เท่ากับ 3.90% โดยกำหนดวันส่งมอบพันธบัตร (Settlement Date) ในวันพรุ่งนี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ล่าสุดตัวเลข GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 3/14 ครั้งที่ 2 เติบโตที่ 3.9% ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 3.3% และเพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งแรกที่ 3.5% ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 2,351 ล้านบาท