ขณะที่การถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศคิดเป็น 4.16 ล้านล้านบาท หรือ 34.53% ของมาร์เก็ตแคป โดยนักลงทุนต่างประเทศจะซื้อ Foreign shares แล้วถือครองยาว แต่การซื้อขายปรับพอร์ตจะทำผ่าน Local shares และ NVDR ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.57 นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยสูงถึง 21.76% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET50
ปัจจัยที่ใช้ประกอบการตัดสินใจการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติมี 4 ด้าน คือ บจ.ไทยมีผลประกอบการแข็งแกร่งในการก้าวข้ามช่วงวิกฤต, ตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงและให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง, นักลงทุนต่างประเทศยังมั่นใจศักยภาพของบจ.ไทย และการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศของ บจ. และการได้รับคัดเลือกเป็นองค์ประกอบดัชนีด้าน CG เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บจ.ไทยเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ การเพิ่มความน่าสนใจของบริษัทจดทะเบียนไทยในสายตานักลงทุนต่างประเทศ มองว่าบจ.ไทยควรเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร เช่น บริหารต้นทุน แรงงาน Supply chain การสร้างมูลค่าสินค้า จากการทำ R&D ขยายตลาดไปต่างจังหวัด และประเทสเพื่อนบ้าน และการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต
อีกทั้งบจ.ไทยต้องมีการกำกับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาล เน้นการเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลด้านการกือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องกับการลงทุน และมีการนำเสนอข้อมูล Roadshow ของบริษัทจดทะเบียนไปยังนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ