ทั้งนี้ บอร์ดปตท.ได้ให้ความเห็นเรื่องความคุ้มค่าของการลงทุนที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากรัฐมีการควบคุมราคา LPG ที่หน้าโรงแยกก๊าซที่ 333 เหรียญสหรัฐต่อตัน ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ขณะที่ราคา LPG ตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน ปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามทิศทางราคาน้ำมัน
ดังนั้น หากรัฐยังตรึงราคา LPG ของโรงแยกก๊าซฯอยู่ที่ 333 เหรียญสหรัฐ/ตัน ก็คงไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมเพราะขาดทุน แต่หากมีการปรับขึ้นราคาขึ้นไปอยู่ระดับสะท้อนต้นทุนการผลิต ก็จะมีการลงทุนเพิ่มเติม โดยจะขยายกำลังการผลิตในพื้นที่ของโรงแยกก๊าซฯทั้ง 5 แห่ง ระหว่างนี้จะดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และการออกแบบด้านเทคนิคไปก่อน ส่วนจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อไรยังไม่สามารถกำหนดได้ขึ้นกับนโยบายราคา LPG ของภาครัฐ
"ปตท.อยากขยายกำลังการผลิตโรงแยกก๊าซฯ เพื่อนำก๊าซฯที่ไม่ได้ผ่านโรงแยกก๊าซฯจำนวน 300-600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน มาแยกให้ได้ LPG ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และได้อีเทนบางส่วนก็จะป้อนให้โรงงานปิโตรเคมีได้ สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น หากไม่ลงทุนก๊าซส่วนที่เหลือดังกล่าวจะถูกนำไปเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า “นายชาครีย์ กล่าว
นอกจากนี้ บอร์ดปตท.อนุมัติให้ปตท.ดำเนินการโครงการขยายอายุท่อส่งก๊าซฯบนบกเส้นที่ 1 เนื่องจากมีการใช้งานมานาน 30 ปี ทำให้ฉนวนหุ้มท่อก๊าซฯมีการเสื่อมสภาพไปบ้าง ทำให้ต้องมีการลอกและหุ้มฉนวนใหม่ หากไม่ดำเนินการอายุท่อก๊าซฯจะสิ้นสุดลงใช้งานไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปตท.ได้มีการเริ่มซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซฯบนบกเส้นที่ 1 ไปแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จ 5 ปี โดยการซ่อมบำรุงท่อดังกล่าวได้วางแผนงานไว้จะไม่ต้องหยุดส่งก๊าซฯแต่อาจจะลดปริมาณการส่งก๊าซฯบ้างเพื่อความปลอดภัย
ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ PTT กล่าวว่า แผนการขยายกำลังการผลิตโรงแยกก๊าซฯครั้งนี้ จะเป็นในลักษณะของการโมดิฟายของโรงแยกก๊าซฯทั้ง 5 แห่ง เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เหลือ จะใช้งบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท ทำให้ได้ LPG 5-6 หมื่นตัน/ปี
การขยายกำลังการผลิตโรงแยกก๊าซฯดังกล่าวนี้ จะใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก คืนทุนเร็วภายใน 2 ปี ใช้งานได้นาน 4-5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยที่จะเริ่มลดลง หากสร้างโรงแยกก๊าซฯขนาดใหญ่จะไม่คุ้มการลงทุน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โรงแยกก๊าซฯแห่งที่ 7 เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะไม่มีความแน่นอนในเรื่องการต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่จะหมดลง
ส่วนประเด็นราคา LPG ที่ถูกตรึงไว้ที่ 333 เหรียญสหรัฐ/ตันทำให้ไม่คุ้มการลงทุน รัฐอาจเข้ามารับซื้อในราคาที่บวกเพิ่มขึ้นบ้าง ก็ยังดีกว่าการนำเข้า LPG จากต่างประเทศ และยังเป็นการช่วยลดภาระในการนำเข้าของปตท.ด้วย
โครงการขยายกำลังการผลิตโรงแยกก๊าซฯนี้จะเน้นผลิต LPG เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ส่วนอีเทนที่ได้เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปิโตรเคมีนั้นจะได้ไม่มาก และผลิตได้ไม่นาน จึงไม่มีความจำเป็นที่บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)จะต้องลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม
ส่วนโครงการขยายอายุท่อส่งก๊าซฯบนบกเส้นที่ 1 จะใช้เวลาดำเนินการ 5 ปีเงินลงทุนหมื่นล้านบาท โดยโครงการซ่อมบำรุงจะมีความยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าการวางท่อก๊าซฯใหม่ เนื่องจากชุมชนเข้ามาอยู่ใกล้แนวท่อมากขึ้น ทำให้การซ่อมบำรุงต้องทำด้วยความปลอดภัย และบางช่วงอาจต้อง Re-route New Pipeline สอดคล้องกับแผนการขยายถนนของกรมทางหลวงด้วยซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปตท.ต้องเร่งโครงการวางท่อก๊าซฯเส้นที่ 5