สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 28 พ.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 84,815 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 66,360 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 78.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,961 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,926 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB191A และ LB236A (รุ่นอายุ 2.6 ปี, 4.2 ปี และ 8.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,875 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)(HMPRO159B) มูลค่า 407.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)(QH152A) มูลค่า 161.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)(TICON171B) มูลค่า 109.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 677.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 19,842 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,951 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -457 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.44% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 5-10 ปี ประมาณ 1-2 bps. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ล่าสุด ธปท. ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนต.ค. 2557 ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 48.7 จาก 48.9 ในเดือนก.ย. โดยมีแนวโน้มลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูงและราคาน้ำมันดิบลดลง สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 457 ล้านบาท ทั้งนี้ยอด Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ ลดลง 844 ล้านบาท จาก 680,663 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน เป็น 679,819 ล้านบาท