บริษํทยังคาดว่ากำไรสุทธิในงวดปี 57/58 (1 ต.ค.57-30 ก.ย.58) จะสูงกว่ากำไรสุทธิในงวดปี 56/57 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.01 พันล้านบาท โดยจะมาจากการเติบโตของทุกธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ บริษัทจะรับรู้กำไรจากการเข้าซื้อบริษัท ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ดส์ อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด(SGFI)ซึ่งเป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีการเติบอย่างมากในประเทศจีน ซึ่งจะบันทึกส่วนแบ่งกำไร 9% มาเป็นกำไรของบริษัทในภายในงบการเงินงวดปี 57/58 เชื่อว่าจะช่วยสร้างความเติบโตให้กับกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะนำเรื่องการเข้าซื้อกิจการ SGFI เข้าขออนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่เกินสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใช้เงินราว 700 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 56 SGFI มีผลกำไร 2,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยสะสมที่ 49% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการศึกษาและเจรจาการเข้าซื้อกิจการประเภทอื่นอยู่หลายแห่ง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ โดยการลงทุนซื้อกิจการในแต่ละแห่งนั้นต้องอยู่บนเงื่อนไขผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 15% และสำหรับเงินลงทุนนั้นบริษัทมีเงินสดอยู่ราว 4 พันล้านบาท และยังสามารถขอเงินกู้จากสถาบันการเงินเพิ่มเติมได้อีก เนื่องจากบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับที่ต่ำที่ 0.4%
ส่วนความคืบหน้าในการนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (PMTA) นั้น ได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้น TTA รับทราบประมาณต้นปี 58 และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ไม่เกินไตรมาส 2/58 เชื่อว่าจะช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจนี้ให้เร็วขึ้น