การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าในการชำระหนี้ และสามารถอัพเดทสถานะบัญชีที่แท้จริงจากทางเครดิตบูโรให้เป็นปัจจุบันถูกต้องและรวดเร็ว โดยมี JMT เป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและทางเครดิตบูโรอีกทางหนึ่ง รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่น ให้ JMT ในการชำระเงินของลูกค้าเข้ามา
ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์การบริหารหนี้มายาวนาน และซื้อหนี้จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารในพอร์ตจำนวนมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าในระบบสูงถึงประมาณ 2 ล้านราย ซึ่งสถาบันการเงินเหล่านั้นก็เป็นสมาชิกกับทางเครดิตบูโรอยู่แล้ว ดังนั้น การที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามาที่ JMT ก็สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลดังกล่าวได้อัพเดทสถานะให้เป็นปัจจุบันกับเครดิตบูโรอย่างแน่นอน และด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้ JMT เป็นบริษัทเอกชนบริษัทแรกที่ได้เซ็นสัญญาความ ร่วมมือกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ในการอำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลยื่นขอแก้ไขรหัสสถานะบัญชีสินเชื่อในครั้งนี้
"เราจะเป็นสื่อกลางให้ระหว่างเครดิตบูโรกับลูกค้าที่ชำระหนี้ ในการเปลี่ยนแปลงสถานะข้อมูลในระบบของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน เพราะบางแห่งเมื่อลูกค้าชำระงินเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้แจ้งกับทางเครดิตบูโร สถานะข้อมูลจึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การเซ็นสัญญาในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยเฉพาะกับลูกค้าที่มีการชำระหนี้เข้ามา"นายปิยะ กล่าว
ในขณะที่นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรหลายแห่งได้โอนขายหนี้ให้กับนิติบุคคลอื่น และลูกหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลหลายรายได้ไปชำระหนี้ให้กับนิติบุคคลอื่นนั้นเสร็จสิ้นแล้ว แต่ข้อมูลของลูกหนี้ในเครดิตบูโรยังปรากฏว่ามีหนี้ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงินผู้โอนขายหนี้ ทำให้รหัสสถานะบัญชีสินเชื่อมิได้รับการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผลต่อการได้รับสินเชื่อของลูกค้าในอนาคตได้ ประกอบกับนิติบุคคลผู้รับโอนหนี้มิใช่สมาชิกของเครดิตบูโร จึงไม่สามารถนำส่งข้อมูลใดๆ ให้แก่เครดิตบูโรเพื่อปรับปรุงแก้ไขรหัสสถานะบัญชีให้ตรงตามข้อ เท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต
เครดิตบูโรได้พิจารณาว่า JMT เป็นผู้ประกอบธุรกิจรับโอน หนี้จากสถาบันการเงินชั้นนำที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรเป็นจำนวนมาก จึงเชิญ JMT ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือดังกล่าวเป็นรายแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ดังกล่าวรายที่ได้ชำระหนี้ให้แก่ JMT เรียบร้อยแล้ว รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับลูกหนี้ หากลูกหนี้ไปขอกู้เงินใหม่ และสถาบันการเงินเข้ามาดูข้อมูลของลูกหนี้ก็จะทราบว่าลูกหนี้รายนี้เคยมีการถูกโอนหรือขายหนี้ และต่อมาได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นกับผู้รับโอนหนี้แล้วเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาพร้อมกับหลักเกณฑ์อื่นของสถาบันการเงินต่อไป