นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดโครงการใหม่อีกราว 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3 พันล้านบาท โดยจะเน้นเปิดโครงการในทำเลเดิม อาทิ กรุงเทพฝั่งเหนือ นครปฐม พุทธมณฑล และพัทยา เป็นต้น ซึ้งขณะนี้บริษัทมีที่ดินในมือแล้ว 700-800 ไร่เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้อีกมากกว่า 2 ปี
"ปีหน้าเบื้องต้นเราคาดว่าทั้งยอดขายและรายได้จะเติบโตได้ 10-15% ซึ่งเรามียอดโอนอยู่ในมืออีกพอสมควร โดยส่วนหนึ่งจะเป็นคอนโดที่โอนไม่ทันในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากคอนโดเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากที่ปีนี้ไม่มีเลย และยังมีโครงการในมือพร้อมขายอีก รวมไปถึงการเปิดโครงการใหม่ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันรายได้และยอดขายของเราในปีหน้าให้มีการเติบโตได้"นายสมนึก กล่าว
ส่วนผลประกอบการในปี 57 บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.8 พันล้านบาท และยอดขายจะทะลุเป้า 3.2 พันล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกบริษัทมียอดขายแล้วกว่า 2.8 พันล้านบาท และขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ชะลอการตัดสินใจไปในช่วงก่อนหน้านี้กลับมาซื้ออีกครั้งหนึ่ง
"เรามั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย ถึงแม้ว่าเราอาจจะโอนคอนโดไม่ทันปีนี้ แต่เรายังสามารถผลักดันให้ลูกค้าบางรายมาโอนแนวราบทันซึ่งสามารถทดแทนส่วนรายได้ของคอนโดที่ไม่สามารถโอนทันในปีนี้ ขณะที่ยอดขายเองเรามั่นใจว่าปีนี้จะทลุเป้าหมายที่วางไว้เพราะการเมืองที่คลี่คลายทำให้ยอดที่อั้นมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง"นายสมนึก กล่าว
พร้อมกันนั้น บริษัทยังตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ 7% ถึงแม้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกจะอยู่ที่ราว 3% เนื่องจากในช่วงกลางปีบริษัทฯบันทึกค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย ที่ดิน และงบการตลาดของคอนโดมิเนียมที่ยังไม่เปิดขาย แต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทจะรับรู้ฯ ยอดโอนจากโครงการแนวราบเข้ามาเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับเดิมได้