ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 3, 2014 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 2 ธ.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 97,156 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 71,069 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 73.1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 21,875 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,840 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB191A (รุ่นอายุ 4.5 ปี, 2.5 ปี และ 4.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 15,793 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH233A) มูลค่า 324.7 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ของบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด (CFG15OA) มูลค่า 201.1 ล้านบาท

3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW218A) มูลค่า 163.4 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 689.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 23,220 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,925 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -5,018 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.41% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. โดยนักลงทุนมีการปรับพอร์ตเพื่อเตรียมซื้อพันธบัตร Benchmark รุ่นอายุ 10 ปี ที่จะมีการประมูลในวันพรุ่งนี้ ด้านตลาดยังคงติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจาก จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ล่าสุด Moody’s ปรับลดความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นจาก Aa3 สู่ A1 เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของญี่ปุ่นในการฟื้นฟูสถานะการคลัง สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ(NET SELL) เท่ากับ 5,018 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ