ล่าสุด บริษัทเตรียมเดินทางไปเจรจาข้อตกลงกับพันธมิตรจากยุโรปในสัปดาห์หน้า เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์สำหรับดับเพลิงในประเทศไทย หากสามารถสรุปข้อตกลงกันได้ ก็คาดว่าบริษัทฯจะเริ่มทำการตลาดและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 58
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยปรับกลยุทธ์การดำเนินงานหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น และจะขยายไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อไป บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดระยองใช้งบลงทุนราว 30-40 ล้านบาทเพื่อรองรับผู้ประกอบการโรงงานใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากในปีหน้า หลังจากได้รับการส่งเสริมการลงทุนติ(BOI) ไปค่อนข้างมากแล้ว
นอากจากนั้น บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิให้ขึ้นมาอยู่ในระดับ 11-12% จากปีนี้ที่ปรับลดลงไปอยู่ที่ 10-11% หลังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก และทางผู้ผลิตในต่างประเทศปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีหน้าบริษัทจะสามารถทำให้กลับมาระดับเดิมได้เพราะจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น
นายวิรัฐ กล่าวว่า บริษัทยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนแรงงานด้านวิศวกร และปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่คาดว่าปีหน้าหลังจากที่มีการลงทุนของภาครัฐเข้ามาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวก็จะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตควบคู่กับเศรษฐกิจของประเทศได้
ส่วนผลดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% หลัง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้แล้ว 428.24 ล้าบาท จากปีก่อนบริษัทฯมีรายได้ 519 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิมั่นใจว่าจะสามารถทำได้มากกว่าปีก่อนที่ 61 ล้านบาท หลัง 9 เดือนที่ผ่านมีกำไรสุทธิแล้ว 46.47 ล้านบาท