บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรในปี 58 จะเพิ่มสูงกว่าระดับ 15% เนื่องจากจะรับรู้กำไรพิเศษจากการจำหน่ายไฟฟ้าโครงการโซลาร์รูฟท็อป 750 กิโลวัตต์ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 ซึ่งประเมินกำไรพิเศษจากธุรกิจดังกล่าวราว 6 ล้านบาท/ปี โดยบริษัทใช้พื้นที่หลังคาโกดังในซอยสุขุมวิท 50 เป็นจำนวน 75% ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด 16,000 ตารางเมตรเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ และได้รับสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)เป็นระยะเวลา 25 ปี
“ช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า เราก็จะมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟเข้ามาช่วยหนุนอัตรากำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้น คาดว่าจะสูงกว่า 15% เพราะมีกำไรเพิ่มเข้ามาปีละ 6 ล้านบาท ก็ช่วยเพิ่มอัตรากำไรสุทธิได้ราวๆ 3% ต่อปี แต่ปีหน้าคงไม่ถึง 6 ล้านบาท เพราะขายไฟไม่เต็มปี ถ้าเป็นภาพรวมปีหน้าอัตรากำไรคงมากกว่าปีนี้ ที่ 9 เดือนเรามีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 14.76% เป็นระดับที่สูงกว่าสิ้นปีก่อนที่ 13%"นายสุธรรม กล่าว
นายสุธรรม กล่าวว่า ในด้านยอดขายในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท มากกว่าปีนี้ที่อยู่ในระดับ 3 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทพิจารณาแนวโน้มกำลังซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มดีขึ้น ซึ่งบริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกันมากกว่า 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ โดยจำนวนโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจากปีนี้จะเปิดตัวไป 6 โครงการ มูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ประกอบกับ บริษัทยังมีมูลค่าโครงการเหลือขายอีกกว่า 4.48 พันล้านบาท จากโครงการปัจจุบันทั้งหมด 10 โครงการ
แผนการซื้อที่ดินในปีหน้าบรษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 1 พันล้านบาทเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต พร้อมทั้งเตรียมออกหุ้นกู้อายุ 2-3 ปี วงเงินประมาณ 500-1,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 58 โดยหุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ B- มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ซื้อที่ดิน พัฒนาโครงการ ใช้คืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้คืนตั๋วแลกเงินระยะสั้น
"การออกหุ้นกู้นั้นจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดต่ำลงเมื่อเทียบกับการกู้แงินจากสถาบันนการเงินที่มีต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่า และปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.4 เท่า"นายสุธรรม กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/57 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/57 ที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเติบโตราว 41% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 59.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 99% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.5 พันล้านบาท
“แนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/57 คาดว่ารายได้และกำไรจะโตต่อเนื่อง เพราะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆที่สร้างเสร็จพร้อมโอน ทำให้มั่นใจว่ารายได้ของเราในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 2,500 ล้านบาท เพราะ ณ สิ้นไตรมาส 3/57 บริษัทมี Backlog เกือบ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นรายได้ที่สามารถรับรู้ได้ในไตรมาส 4/57 ราว 1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปีหน้าส่วนใหญ่และมีรับรู้ในปี 59 เล็กน้อย"นายสุธรรม กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมรับรู้ยอดโอน ประกอบด้วย โครงการ The Niche ID พระราม 2 โครงการ The Niche MONO บางนา โครงการ The kith ติวานนท์ โครงการ The Kith นวมินทร์ โครงการ The kith ลำลูกกาคลอง 2 โครงการ SENA Park Grand และโครงการ SENA Ville