สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 4 ธ.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 69,580 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 48,526 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 69.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,915 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,185 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB236A และ LB25DA (รุ่นอายุ 2.5 ปี, 8.5 ปี และ 11.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,286 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI17OA) มูลค่า 206.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT174A) มูลค่า 197.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL17OA) มูลค่า 173.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 576.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,575 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,210 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 590 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.42% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 10 ปี ประมาณ 2 bps. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุดตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. อยู่ที่ 59.3 ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 57.5 และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่ง ด้านตลาดจับตาผลการประชุม ECB คืนนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 590 ล้านบาท ทั้งนี้ยอด Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ ลดลง 5,426 ล้านบาท จาก 679,819 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน เป็น 674,393 ล้านบาท