AH ตั้งเป้าปี 58 รายได้โต 10% ตามอุตฯรถยนต์ฟื้นตัว-อีโคคาร์เฟส 2 หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 8, 2014 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH) คาดว่า ในปี 58 รายได้จะเติบโตราว 10% ทิศทางเดียวกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่คาดปีหน้ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศจะสูงขึ้นมาที่ 2.1-2.2 ล้านคัน จากปีนี้น่าจะจบที่ 2 ล้านคัน ส่วนปีนี้รายได้น่าจะทำได้ราว 1.5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.72 ล้านบาท รับผลกระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว โดย 9 เดือนแรกมีรายได้ 1.17 หมื่นล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 4/57 ยอดขายคงใกล้เคียงไตรมาสก่อน

นอกจากนั้น บริษัทวางแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทยในปีหน้า เพื่อรองรับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวของรถอีโคคาที่จะเข้ามาช่วยให้บริษัทฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีในอนาคต โดยงบลงทุนในปีหน้าจะสูงกว่างบลงทุนปกติที่ในปีนี้ตั้งงบไว้ที่ 450 ล้านบาท เพราะจะมีการลงทุนขนาดใหญ่

"ปี 58 ถ้ามีโอกาสก็จะลงทุนเพิ่มในไทยต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าอุตฯรถยนต์ในไทยยังไปได้ดี ถ้ามีการลงทุนขนาดใหญ่คงจะกระทบผลกำไรบริษัทบ้าง เพราะคงจะใช้เวลา 2 ปีกว่าจะเห็นรายได้-กำไร ซึ่ง 2 ปีแรกของการลงทุนจะเห็นวอลุ่มครึ่งหนึ่ง และอีก 3-4 ปีก็จะสามารถมีออร์เดอร์เข้ามาครอบคลุมโอเวอร์เฮดของบริษัทต่อไป" นายเย็บ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนรองรับออร์เดอร์จากโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ซึ่งมีค่ายรถยนต์อีก 5 ค่ายที่เพิ่มเข้ามาจากเฟสแรก ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้งานจากมาสด้า และ ฟอร์ด ขณะที่คาดว่าค่ายจีเอ็มจะเป็นผู้ผลิตรายต่อไป ซึ่งในส่วนของ AH ก็มีโรงงานเตรียมพร้อมอยู่แล้ว โดยปัจจุบันเ บริษัทผลิตชิ้นส่วนให้หลายค่าย เช่น นิสสัน ปัจจุบันการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70% แต่ในปี 58 จะเพิ่มอีก 10% นายเย็บชูชวน กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมทั้งการหาพันมิตรและขยายตลาด เช่น การเจรจาพาร์ทเนอร์ในอินเดียเนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเข้าไปลงทุน และตลาดใหม่ที่สำคัญ ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เพิ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตัวของบริษัท และแผนระยะยาวจะมีการขยายไปยังตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯและยุโรปเพิ่มด้วย

"อยากมีพาร์ทเนอร์เอเชียเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีมาเลเซีย สิงคโปร์และไทย ต่อไปจะมองหาไปยังฟิลิปปินส์ อินเดีย อินโดนีเซีย และเมื่อตลาดเอเชียแข็งแกร่งแล้วก็จะมองไปถึง ในญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา"นายเย็บ กล่าว

ขณะที่ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ที่มาเลเซียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะไตรมาส 3 ที่ผ่านมาแนวโน้มยังดีต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ