"ทีวีธันเดอร์"คาดยื่นไฟลื่ง 15 ธ.ค.ขาย IPO 200 ล้านหุ้นเข้า mai Q1/58

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 8, 2014 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอซเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ขณะนี้บมจ.ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (TVT) อยู่ระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงไตรมาส 1/58
ทั้งนี้บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีวัตุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เพื่อขยายธุรกิจทั้งในด้านของผู้ผลิตรายการ และการซื้อลิขสิทธิ่รายการวาไรตี้จากต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงปลายปี 58

“การเปิดทีวีดิจิตอลที่มีมากถึง 24 ช่อง จะเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโต จึงเป็นที่มาของการเตรียมตัวเพื่อระดมทุน สำหรับการขยายตัวของบริษัทต่อไป รวมถึงการเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตที่มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน"นายสมภพ กล่าว

ด้านนางภัทรภร วรรณภิญโญ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVT กล่าวว่า บริษัทได้มีการตั้ง APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนในการเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้รองรับการผลิตรายการในประเทศและการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมาบริหารงานด้วย

สำหรับปัจจุบันบริษัทมี 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ครีเอทีส มีเดีย จำกัด (CMED) ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยรายได้หลักมาจากค่าโฆษณา 85% และอีก 14% มาจากการให้บริการซึ่งเกิดจากการรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของบริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทรเม้นต์ จำกัด (EM) ซึ่งดำเนินธุรกิจการบริหารศิลปินเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของ CMED โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 1% ของรายได้รวมทั้งหมดของ TVT

ด้านภาพรวมอุตสหกรรมสื่อและโฆษณาในปี 58 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเติบโตถึง 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีการเติบโต 7-8 พันล้านบาท เนื่องจากในปีหน้าจะมีช่องทีวีดิจิตอลเปิดครบทั้งหมด 24 ช่อง และมีการกระจายกล่องรับสัญญาณทีวิดิจิตอลที่ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานผู้ชมให้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทที่ทำสื่อโฆษณามีการอัดงบเพิ่มเติมด้วย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่าจะยังไม่มีการปรับเพิ่มราคาค่าโฆษณาอย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ