“การเปิดทีวีดิจิตอลที่มีมากถึง 24 ช่อง จะเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโต จึงเป็นที่มาของการเตรียมตัวเพื่อระดมทุน สำหรับการขยายตัวของบริษัทต่อไป รวมถึงการเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตที่มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน"นายสมภพ กล่าว
ด้านนางภัทรภร วรรณภิญโญ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVT กล่าวว่า บริษัทได้มีการตั้ง APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนในการเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้รองรับการผลิตรายการในประเทศและการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมาบริหารงานด้วย
สำหรับปัจจุบันบริษัทมี 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ครีเอทีส มีเดีย จำกัด (CMED) ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยรายได้หลักมาจากค่าโฆษณา 85% และอีก 14% มาจากการให้บริการซึ่งเกิดจากการรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของบริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทรเม้นต์ จำกัด (EM) ซึ่งดำเนินธุรกิจการบริหารศิลปินเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของ CMED โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 1% ของรายได้รวมทั้งหมดของ TVT
ด้านภาพรวมอุตสหกรรมสื่อและโฆษณาในปี 58 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเติบโตถึง 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีการเติบโต 7-8 พันล้านบาท เนื่องจากในปีหน้าจะมีช่องทีวีดิจิตอลเปิดครบทั้งหมด 24 ช่อง และมีการกระจายกล่องรับสัญญาณทีวิดิจิตอลที่ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานผู้ชมให้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทที่ทำสื่อโฆษณามีการอัดงบเพิ่มเติมด้วย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่าจะยังไม่มีการปรับเพิ่มราคาค่าโฆษณาอย่างแน่นอน