"ปีหน้าเราก็มองว่าน่าจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวได้ โดยเราก็คงไม่มีการลงทุนอะไรมากมาย กำลังการผลิตก็ยังพอไปได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60-70% ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่มีอยู่ 9 แสนตันต่อปี ซึ่งก็ยังสามารถรองรับกำลังการผลิตที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นได้อยู่ โดยหวังว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 80-85%ได้ ขณะที่เชื่อมั่นว่าปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ จากปีนี้เป็นปีที่ท้าทายจากกำลังซื้อที่ลดลง"นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขึ้นเป็น 25-30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% จากที่จะมีการส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน AEC มากขึ้น เดิมที่มีการส่งออกไปแล้วทั้งหมด 10 ประเทศ โดยประเทศที่มีสัดส่วนยอดขายสูงจะมาจากประเทศกัมพูชา พม่าและลาว
นอกจากนี้ บริษัทฯคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะมากกว่า 8% และอัตรากำไรขั้นต้นจะมากกว่า 25% โดยจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทไม้เอนกประสงค์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง สำหรับในปีหน้าบริษัทฯก็มีการวางงบลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรไว้ราว 100 ล้านบาท และวางงบการตลาดไว้ 5-6% ของยอดขายรวม
ส่วนผลประกอบการปีนี้ คาดว่า รายได้และกำไรปีนี้จะลดลงกว่าปีก่อน โดยปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท และกำไร อยู่ที่ 450 ล้านบาท เนื่องด้วยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง โดยบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากในประเทศเป็นหลักราว 70-80% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯก็เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4/57 ที่เริ่มปรับฟื้นตัวดีขึ้น