นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ราว 400-500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาของออฟฟิศเมท และสาขาของร้านบีทูเอส 15-16 สาขา รวมไปถึงใช้ในการขยายตลาดสินค้าออนไลน์ ทั้งด้านระบบ และเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ ๆ เข้าไป โดยบริษัทฯตั้งเป้าที่จะมีจำนวนสินค้าทั้งหมด 135,000 รายการ จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 5 หมื่นรายการ
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปี 2558 เชื่อว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากบริษัทฯมียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลดลง ประกอบกับบริษัทฯจะเน้นการขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทฯเอง ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนเปิดสาขาในเวียดนาม 1 แห่ง ในปีช่วงไตรมาส 4/58-ไตรมาส 1/59 ในขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการศึกษาและสำรวจพื้นที่การลงทุน เพื่อเปิดตลาดออนไลน์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกด้วย
นายวรวุฒิ กล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ว่า รายได้อาจจะเติบโตได้เพียง 10% จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ 12-13% เนื่องจากบริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก และส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวมาจนถึงช่วงไตรมาส 3/57 จึงทำให้รายได้ของบริษัทฯเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้