ในส่วนยอดขาย Pre-sale ปี 58 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2.25-2.35 หมื่นล้านบาท มากกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมีการเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในปีหน้าอีก 12 โครงการ ในกรุงเทพฯและปริมณฑลติดรถไฟฟ้า มูลค่ากว่า 2.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 90% และโครงการแนวราบ 10% อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีมูลค่าโครงการเหลือขายอยู่ 1.17 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทประเมินแนวโน้มทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะดีขึ้นมากกว่าปีนี้อย่างมาก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นกว่าปีนี้
ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงส่งผลดีต่อราคาค่าวัสดุก่อสร้างที่ยังทรงตัว ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างยังอยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการยังสามารถรับได้ แม้ว่าราคาที่ดินจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยฉพาะที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าที่มีการปรับเพิ่มขึ้น 8-9% ต่อปี
สำหรับงบซื้อที่ดินในปี 58 บริษัทตั้งงบไว้ที่ 3 พันล้านบาท ไว้ใช้สำหรับการซื้อที่ดินติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 5 แปลง เพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งคาดว่าที่ดิน 5 แปลงดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะรองรับมูลค่าโครงการได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุน ANAN กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ มูลค่า 2 พันล้านบาท อายุ 3-5 ปี ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 58 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินมาใช้เป็นกระแสเงินสด เพื่อสำรองไว้ในเวลาที่บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินสำหรับการซื้อที่ดิน การพัฒนาโครงการ หรือการชำระคืนหนี้ เป็นต้น
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 57 บริษัทมั่นใจรายได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 9 พันล้านบาท มาอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีนี้มีลูกค้าทยอยโอนโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งในไตรมาส 4/57 บริษัทคาดว่าจะมียอดโอนโครงการเข้ามาอีกราว 4.2 พันล้านบาท โดย 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วอยู่ที่ 6.33 พันล้านบาท
ขณะที่ยอดขายปีนี้ก็ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการของบริษัทได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า รวมถึงโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้ 4 โครงการ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้เกินเป้าที่ตั้งไว้