(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค เล็งกลุ่มพลังงานถ่วงหลังราคาน้ำมันร่วง

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯ, นาโนไฟแนนซ์ และหุ้นที่ให้ปันผลดี น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้ โดยอาจมีการย้ายจากกลุ่มพลังงานมาเข้ากลุ่มแบงก์ หรือสื่อสาร รวมถึงพวกค้าปลีกก็ดี นอกจากนี้ยังคาดหวังว่ากองทุน LTF, RMF น่าจะช่วยหนุนได้

สำหรับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงมองว่าเป็นการ take profit ในช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งตลาดบ้านเราคงจะไม่ได้รับผลเท่าไร เพราะถือน้อยมาก

พร้อมให้แนวรับ 1,543-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,567 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(10 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด(-1.51%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด(-1.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด(-1.64%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 232.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 27.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 255.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 28.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 15.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.16 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 17.35 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ธ.ค.)1,559.56 จุด ลดลง 15.99 จุด(-1.01%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,569.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(10 ธ.ค.)ที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 ธ.ค.)ที่ 5.90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.77/78 ตามทิศทางภูมิภาคที่แข็งค่าหลังดอลล์อ่อน
• "นักเศรษฐศาสตร์" มองราคาน้ำมัน ฉุดเศรษฐกิจ "รัสเซีย" เผชิญภาวะชะงักงัน ทั้งเงินรูเบิลอ่อนดันเงินเฟ้อพุ่ง ขณะที่ทุนสำรองฯลดต่อเนื่อง โอกาสเบี้ยวหนี้สูง ส่อกระทบท่องเที่ยวไทย เชื่อผลกระทบด้านอื่นน้อย เหตุการค้าระหว่างกันไม่มาก ทั้งธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องมีน้อย
• นางมนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เผยการที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้ความเห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ระหว่างไทยและจีน เพื่อร่วมมือกันในโครงการรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน ในเส้นทางหนองคาย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 กม. โดยจะมีการลงนามกันในเดือนนี้ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจใน จ.หนองคาย และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมาก เพราะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดี และทำให้การค้าขายชายแดนคึกคักมากขึ้น
• นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ไทยกำลังประสบปัญหาความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางด้านพลังงาน ซึ่งมีแนวโน้มค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้น จากการที่ไทยต้องรับซื้อไฟจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศได้
• "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. 2558 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงไทย-พม่า เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายฯ (เจเอชซี) ที่กรุงเทพฯ โดยผู้แทนฝ่ายไทยจะมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับรองประธานาธิบดีพม่า
• ธปท.เผยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเดือน ต.ค.เริ่มฟื้น พบปริมาณการใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นเกือบหมื่นล้านบาท หรือขยายตัว 8% ในเดือนเดียว เฉพาะใช้จ่ายในประเทศเพิ่ม 7 พันล้าน เบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.20 พันล้าน ต่างกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่หดตัวถึง 14 ล้านบาท ส่วนการใช้จ่ายต่างประเทศขยายตัว 19.71% ขณะเดียวกันนอนแบงก์หันมาเปิดบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลรายใหม่มากขึ้น
• กสทช.แจง สนช.ลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 4จี จาก 2% เหลือ 1% ต่อปีทำได้ แต่ไม่การันตีผู้ประกอบการลดค่าบริการให้ถูกลงจริงหรือไม่ ชี้ประสบการณ์ประมูล 3จี กำหนดให้ลดราคา 15% แต่สุดท้ายทำแค่แพคเกจเพิ่มบริการ ประชาชนยังไม่รู้สึกถึงราคาที่ลดลง พร้อมสั่งตรวจแพคเกจในตลาดทั้งหมด

*หุ้นเด่นวันนี้

• ITD-STEC-UNIQ(ฟินันเซีย ไซรัส)ได้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 สัญญา 3 หมื่นล้านไม่พลิกโผ มีเพียง CK ที่ประมูลไม่ได้ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการต่อราคา ซึ่งรฟม.คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ประมาณ เม.ย.-พ.ค. 2015 และเริ่มก่อสร้างมิ.ย. 2015 โดยยังคงประมาณการเดิมของ STEC และ ITD ในปี 2015 เพราะรายได้จากก่อสร้างจากงานนี้จะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป แม้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะอ่อนไหวกับปัจจัยการเมือง แต่เชื่อว่าการเมืองจะนิ่งพอที่รัฐบาลจะผลักดันการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐให้เกิดขึ้นได้ในปีหน้า โดยยังคงชอบกลุ่มรับเหมา และคงราคาเป้าหมายปี 2015 ของ ITD ที่ 8.10 บาท, CK ที่ 30 บาท และ STEC ที่ 28 บาท
• QH(ฟินันเซีย ไซรัส)เป็นหนึ่งใน Top pick กลุ่มนี้ในปีหน้าจากความสำเร็จในการจับกลุ่มลูกค้ากลาง-ล่าง ซึ่งมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ให้เป้าปี 2015 ที่ 4.90 บาท ยอด Presales 2 เดือนแรกของ 4Q14 ทำได้ 2.9 พันล้านบาท -6% Q-Q, +7% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากการขายบ้านแนวราบซึ่งยังสามารถขายได้ในระดับสูงเกิน 1 พันล้านบาทต่อเดือน ส่วนยอดขายคอนโดทำได้เพียง 500 ล้านบาทเพราะไม่มีการเปิดคอนโดใหม่ ทำให้ยอด Presales ในงวด 11M14 ทำได้ 81% ของเป้าทั้งปีของบริษัทที่ 2.14 หมื่นล้านบาท โดยเดือน ธ.ค. จะมีคอนโดใหม่เปิดขาย 3 โครงการ น่าจะช่วยให้ยอดขายขยับเข้าใกล้เป้าได้ แนวโน้มกำไรใน 4Q14 คาดชะลอ Q-Q แต่ดีขึ้นเล็กน้อย Y-Y
• SAT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 22.5 บาท คาดปี 58 โตดีขึ้น โดยการผลิตรถยนต์ของไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นแตะ 2.2 ล้านคันในปี 58 จาก 1.9 ล้านคันในปีนี้ ยอดขายเครื่องจักรกลทางการเกษตรโตได้ 17% เป็น 7.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นทำให้คาดว่า ยอดขาย SAT ในปี 58 จะขยายตัวประมาณ 15% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 17-18% จากปีนี้ที่ 16-17% ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และการเกษตรเพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหญ่คือ คูโบต้าและฮีโน่
• TRUEIF(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 13.80 บาท คาดว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงจะเป็นที่พักเงินได้ในระยะสั้น และมีความเสี่ยงจำกัดจากความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ โดยคาดการณ์เงินปันผล 4Q57 หุ้นละ 0.22 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.1% และให้ TRUEIF เป็น Top pick สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปเงินปันผล เนื่องจากให้ Dividend Yield สูงถึงปีละ 8% และไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน