ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มเป็น 2% ภายในปี 59 จากปีหน้าที่คาดหมายมาร์เก็ตแชร์ในระดับ 0.5-1% เนื่องจากบริษัทมีกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 5,000 บัญชี จากปัจจุบันมีอยู่ 500 บัญชี พร้อมกันนั้น บริษัทจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้ลงทุนอีกกว่า 100 ราย จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 10 ราย
"ด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ มาร์เก็ตแชร์ และฐานลูกค้ารายย่อย จะทำให้ในปีหน้าบริษัทฯจะมีสัดส่วนปริมาณการซื้อขายของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ 80% จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ยังเป็นการซื้อขายจากกลุ่มลูกค้าสถาบัน"นายกานต์ กล่าว
ขณะนี้ค่าธรรมเนียมนายหน้าค้าหลักทรัพย์(คอมมิชชั่น)ของบริษัทปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 0.14-0.15% ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ระดับ 0.18% แต่เชื่อว่าการแข่งขันในปีหน้าจะรุนแรงตามภาวะตลาดฯ ที่จะยังอยู่ในระดับที่ดี อาจทำให้ค่าเฉลี่ยคอมมิชชั่นของอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ระดับ ใกล้เคียงของบริษัทฯ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 48,000 ล้านบาท/วัน
นายกานต์ กล่าวว่า ทุนของบริษัทในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง โดยมีเงินสด 600-700 ล้านบาท และมี NCR เกือบ 2,000% สะท้อนว่าบริษัทยังมีความสามารถในการขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีงานวาณิชธนกิจโดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในมือ 5-7 รายในปีหน้า เน้นกลุ่มฐานลูกค้าของ LHBANK ซึ่งในอนาคตจะมีการร่วมมือระหว่างกันเพื่อพัฒนาศักยภาพการเติบโตในกลุ่มธุรกิจการเงินของแลนด์แอนด์เฮ้าส์อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดให้บริการซื้อขายหล้กทรัพย์ตั้งแต่ 29 ก.ย.57 ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และอนุพันธ์ ดังนี้ 1. นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2. ค้าหลักทรัพย์ 3. จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 4.ที่ปรึกษาการลงทุน 5. ตัวแทนนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และ6. ตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้า โดยในปี 2558 บริษัทฯ จะเปิดให้บริการด้านวาณิชธนกิจ โดยเฉพาะเป็นที่ปรึกษาการเงิน การลงทุนผ่านแลนด์แอนด์เฮ้าส์ แอ๊ดไวเซอร์รี่ จำกัด โดยปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้ราว 2 ล้านบาทต่อเดือน