"วันนี้มีคงรีบาวด์ระหว่างวัน หลังจากนั้นรอดูทิศทางจะเป็นอย่างไรในช่วงบ่าย คงแกว่งในกรอบแคบ กองทุนที่ขายส่วนใหญ่เป็นในประเทศเพราะเมื่อวานดัชนีหลุดแนวสำคัญ 1,550 จุด บางกองทุนอาจขายออก และรอรับต่ำกว่านี้"นายก้องเกียรติ กล่าว
ปัจจัยช่วงนี้เมื่อคืนตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีก็ไม่ได้ทำหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้นมาก เพราะปรับขึ้นมานานแล้ว
วันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหววันนี้แนวต้าน 1,535-1,540 จุด แนวรับ 1,515 และ 1,510 จุด นักลงทุนระยะกลางถึงยาวเริ่มเข้าลงทุนได้ในกลุ่มขนส่ง ท่องเที่ยว ค้าปลีก สื่อสาร ส่วนหุ้นน้ำมันควรดูราคาน้ำมันในตลาดโลกอีกสักพัก
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(10 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด(-1.51%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด(-1.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด(-1.64%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 40.79 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.62 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 16.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 28.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.92 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.47 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 ธ.ค.)1,526.81 จุด ลดลง 32.75 จุด(-2.10%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,317.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ธ.ค.)ที่ 59.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 99 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ธ.ค.)ที่ 5.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.80/82 คาดแกว่งแคบขาดปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 32.75-32.90
- ปตท.สผ.หั่นรายจ่าย-งบลงทุน รับผลกระทบจากราคาน้ำมันร่วงหนัก ระบุปีนี้ไม่กระทบผลดำเนินการ แต่ส่งผลปีหน้า ด้าน"ไออาร์พีซี" เตรียมประเมิน รับขาดทุนสต็อกมากไตรมาส 4 แม้รับผลดีต้นทุนลด ขณะนักวิเคราะห์คาดกระทบอีกระยะ แนะเลี่ยงลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน
- ภาครัฐ-เอกชนจับมือจัดตั้งกองทุนยาง 420 ล้านบาท ซื้อยางในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าผลักดันราคา มั่นใจขยับราคาเข้าหาเป้าหมาย 60 บาทต่อกก.ได้ ด้านอุตสาหกรรม เร่งอัดฉีดเงินกู้ซื้อยางพารา ราคาดันราคาทะลุ 65 บาทต่อกก. ภายในกลางปีหน้า พร้อมเพิ่มการแปรรูปยางได้ถึง 1 ล้านตัน
- รถใช้แล้วพุ่ง หลังยอดยึดเพิ่มต่อเนื่อง ผลักดันเข้าสู่ตลาดมือสอง-ลานประมูล ฉุดราคาร่วง 28% ผู้ประกอบการรถเช่า โดนหางเลข รถหมดสัญญาด้อยค่าหนัก ด้านบริษัทประมูลเผยสต็อกล้น เร่งหาพื้นที่จอดสำรอง เพิ่มความถี่จัดประมูล
- "ณรงค์ชัย"เตรียมขยับราคาแอลพีจีภาคขนส่งอีกรอบ ระบุต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับน้ำมัน หวังลดปริมาณรถยนต์ใช้แอลพีจี ที่ปัจจุบันมีมากถึง 1.3 ล้านคัน เตือนคนกำลังเปลี่ยนเชื้อเพลิงคิดรอบคอบ โต้กระแสโจมตีรัฐบาลไม่ลดราคาน้ำมัน ยันทำตามหลักเศรษฐศาสตร์ น้ำมันทุกชนิดต้องปรับให้ภาษีเท่ากัน
- ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีอีกครั้ง หลังจากที่องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดการคาดการณ์ปริมาณความต้องการน้ำมันโลกในปีหน้าลง 3 แสนบาร์เรล/วัน อยู่ที่ 28.9 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่เพดานการผลิตน้ำมันยังอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมีนัยว่ากำลังการผลิตมีมากเกินความต้องการ
- นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซีย พลัส ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกรณีมีชื่อร่วมกับนักลงทุนรายใหญ่เข้าซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ที่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ หนีคดีอุ้มลดหนี้ขณะนี้ เบื้องต้นยืนยันว่าไม่ได้เป็นที่ปรึกษาการเงินให้กับนายนพพร"ผมเป็นผู้ซื้อหุ้นวินด์ฯคนหนึ่งซึ่งลงทุนเล็กน้อยเพียง 50 ล้านบาท เพราะเห็นว่าธุรกิจดี โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ห้วยบง จ.นครราชสีมา มีรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท"
- ปลัดกระทรวงคมนาคม เผยคาดว่าในช่วงต้นปี 2558 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง คือ 1.ชุมทาง จิระ-ขอนแก่น วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท และ 2.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้าเช่นกัน ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ที่เหลืออีก 4 เส้นทางนั้น คาดว่าจะประกวดราคาก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2558
- รมว.คลัง ยอมรับสภาพเศรษฐกิจในปีนี้แย่กว่าที่คิด โดยเฉพาะการส่งออกคาดว่าจะติดลบ การเบิกจ่ายลงทุนล่าช้ามาก งบลงทุนเหลื่อมปีกับงบโครงการไทยเข้มแข็ง 2.3 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้แค่ 100 ล้านบาท ขณะที่งบลงทุนงบในปี 2558 ประมาณ 4.44 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้เพียง 2 หมื่นกว่าล้านบาท หรือ 5% ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะขยายตัวได้เต็มที่ 3% ส่งผลให้ทั้งปีขยายตัวได้ไม่ถึง 1%
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 79 บาท ปัจจุบัน PTTGC ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 8.1 เท่าของ P/E ปี 2558 ค่ากว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจปิโตรเคมีในภูมิภาคที่ซื้อขายที่ 12.1 เท่า ด้านราคาหุ้นที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ PTTGC เป็นหุ้นที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5.5% ต่อปี เรามองว่าความเสี่ยงต่อราคาหุ้นเริ่มจำกัด เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยลบจากทั้งเรื่องของการปฏิรูปพลังงาน และผลประกอบการ 2H57 ที่มี Stock Loss จำนวนมาก
- STPI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 25.50 บาท โดยอิงกับ P/E ปี 57 ที่ 13.5 เท่า ปัจจัยกระตุ้น คือ การได้งานใหม่ และการรับรู้รายได้ค่าเร่งงานซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในเร็วๆนี้ ฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก โดยเป็นเงินสดสุทธิ 5 พันล้านบาท คิดเป็น 3.46 บาท/หุ้น
- กลุ่มขนส่งทางอากาศ (เอเชียพลัส) AAV"ซื้อ"เป้า 6 บาท น่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลงมากสุดเพราะใช้น้ำมันเป็นต้นทุนหลัก ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 58-59 ขึ้นจากเดิมเฉลี่ยปีละ 9.5% โดยเป็นการปรับเพิ่มของ 2 สายการบินหลักคือ AAV (เพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 37% กำไรใหม่ในปี 2558 จะอยู่ที่ 1.45 พันล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาทในปี 2559 เพิ่มขึ้น 310% และ 32% จากปี 2557 และ 2558)และTHAI คาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 78% โดยผลการดำเนินงานปี 2558 จะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร 2.6 พันล้านบาท และ 4.7 พันล้านบาทในปี 2559 เพิ่มขึ้น 134% จากปี 2558 (โดยกำหนดสมมติฐานอื่น ๆ เช่นเดิม เช่น Loading factor ของ AAV และ THAI ยังคงเดิมที่ 81% และ 71.5%) จึงยังคงเลือก AAV เป็น Top Pick มูลค่าพื้นฐานใหม่ในปี 2558 อยู่ที่ 6.0 บาท มี Upside 26.5%