“ปีหน้าเรามั่นใจว่าจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จากปีนี้ที่หดตัวจากปัญหาทางการเมืองตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยอดออเดอร์ที่ลูกค้ามีการสั่งเข้ามาเริ่มกลับมาขยายตัวได้ และลูกค้ายังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง เพราะลูกค้ามองว่าปีหน้ากำลังซื้อ และการท่องเที่ยวจะกลับมาช่วยผลักดันการบริโภคฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณกลับมาฟื้นตัว"นายธงชัย กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะกลับมาอยู่ในระดับที่ 10% สูงขึ้นจาก 7% ในปีนี้ เนื่องจากรายได้ที่สูงขึ้นตามการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงสิ้นปีเป็น 53 ล้านขวดต่อเดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 50 ล้านขวดต่อเดือน โดยบริษัทได้มีการลงทุนราว 10 ล้านบาทในการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะสามารถรองรับยอดคำสั่งซื้อที่จะปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้า ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตของบริษัทให้ลดลงเล็กน้อย
นายธงชัย เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในช่วงกลางปีหน้าจะได้ข้อสรุปแผนส่งออกหรือลงทุนผลิตขวดพลาสติกในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลในด้านต่าง ๆ ทำให้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะขยายไปยังประเทศใดก่อน โดยแผนงานดังกล่าวอยู่ภายใต้เงินลงทุนที่มาจากการระดมทุนผ่านการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่บริษัทได้เงินมาราว 110 ล้านบาท
“ตอนนี้เราเหลือเงินจากการขาย IPO ราว 100 ล้านบาท หลังจากที่มีการซื้อเครื่องจักรไปแล้ว 10 ล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เหลือจะนำไปขยายการลงทุนสร้างโรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นประเทศใด ซึ่งคาดว่าในช่วงหลังกลางปีหน้าจะได้ข้อสรุป และสามารถตั้งโรงงานได้ภายในปี 59"นายธงชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 57 คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีกำไร 59 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานจนทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง และลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อสินค้าออกไป