KCM กำหนดราคา IPO ที่ 1.30 บ./หุ้น จอง 15-17 ธ.ค. เทรด 23 ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 12, 2014 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เค.ซี.เมททอลชีท (KCM) ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท ภายใต้แบรนด์ “รถถัง" เจ้าตลาดในวงการหลังคาเหล็กและวัสดุก่อสร้างงานหลังคาและผนังเหล็กในภาคอีสานและภาคเหนือ เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2557 และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์คือ “KCM"

ทั้งนี้ KCM ได้แต่งตั้งให้ บล. โนมูระ พัฒนสิน เป็นแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมกับ บล.เคทีบี (ประเทศไทย), บล.ฟินันเซีย ไซรัส ,บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย), บล.เออีซี และ บล.แอพเพิล เวลธ์ ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการหน่าย

“การกำหนดราคาขายไอพีโอที่ 1.30 บาท/หุ้น ถือว่ามีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ผมมั่นใจว่า KCM จะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนส่งท้ายสิ้นปีนี้ ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่"นายสมภพ กล่าว

นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า มั่นใจว่าหุ้น KCM จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เพราะในระหว่างการโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุน 10 จังหวัดทั่วประเทศ และการโรดโชว์ตามห้องค้า นักลงทุนต่างมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งและสนใจเข้าลงทุนเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าหลังเข้าเทรด KCM จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจให้กับนักลงทุน

นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ KMC กล่าวว่า บริษัทมีแผนนำเงินที่ระดมทุนได้ไปลงทุนขยาย 3 สาขา คือ ภูเก็ต แพร่ และลำปาง โดยลงทุนก่อสร้างตกแต่งและเครื่องจักร บนที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว และในช่วง 3 ปีข้างหน้า (58-60) เตรียมใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่งในพื้นที่ภาคกลางตอนบนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก

ขณะเดียวกัน จะลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่าจำนวน 4 แห่งในพื้นที่สาขา 3 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดละ 1 แห่ง อีกทั้ง ใช้เป็นเงินลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูงจำนวน 4 เครื่อง และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของบริษัทในปี 54-56 มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจาก 718.15 ล้านบาท เป็น 806.78 ล้านบาท และ 821.86 ล้านบาทตามลำดับ มีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปีในช่วงดังกล่าว โดยบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 58.18 ล้านบาท 46.91 ล้านบาท และ 42.07 ล้านบาทตามลำดับ

และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 401.53 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10.77 ล้านบาท

ปัจจุบัน KCM มีสาขาอยู่ 22 แห่ง กระจายในภาคอีสานและภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นก็มีถึง 4 สาขาแล้ว ล่าสุดได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะทำการเปิดโรงงานแห่งใหม่ มีที่ภูเก็ต ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ โดยที่เชียงใหม่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและดำเนินการคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้

KCM มีทุนจดทะเบียน 170.00 ล้านบาท มีทุนชำระแล้วเต็มมูลค่าเท่ากับ 120.00 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 480.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท สำหรับทุนจดทะเบียนส่วนที่เหลือจำนวน 50.00 ล้านบาท บริษัทออกไว้เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้น IPO ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ