ทั้งนี้ ประเมินว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยภายในสิ้นปีนี้จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุน LTF และ RMF ที่คาดว่าจะมีไหลเข้ามาในตลาดประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะที่แรงขายของต่างชาติก็ลดลง จึงมองเป้าหมายดัชนีหลักทรัพย์ในปีนี้ที่ระดับ 1,500 จุด
สำหรับภาพรวมการลงทุนในปี 2558 มองว่าในช่วงครึ่งแรกของปีหุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น เนื่องจากประเทศสำคัญของโลกฟื้นตัวได้ ทั้งจากการฟื้นได้ด้วยตัวเองหรือฟื้นจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่างๆ ทำให้เกิดกำลังซื้อและการขยายการลงทุนของกิจการซึ่งเป็นผลบวกต่อผลกำไรของบริษัทต่างๆ ในตลาดหุ้น โดยมาตรการกระตุ้นต่างๆ ก่อให้เกิดภาวะดอกเบี้ยในระดับต่ำ และเม็ดเงินสภาพคล่องในระบบยังคงมีสูงทำให้มีแรงซื้อหนุนเข้ามาในตลาดหุ้นต่อเนี่อง
ตลาดหุ้นไทยโดยรวมสามารถฟื้นตัวได้จากฐานที่ต่ำ ในขณะที่มีบางธุรกิจที่ฟื้นตัวได้จริงประกอบกับตลาดปรับตัวลงลึกจนถึงระดับที่น่าสนใจลงทุนแล้ว คาดว่าเม็ดเงินในประเทศจะมีบทบาทที่สูงต่อทิศทางราคาหุ้นซึ่งจะทำให้หุ้นขนาดกลาง-เล็กปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากเม็ดเงินในประเทศจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้เป็นหลัก
ทั้งนี้ กองทุน SCBTG3P3A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน และมีกลยุทธ์เชิงรุก (Actively Managed) โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มหรือปัจจัยพื้นฐานที่ดีในตลาดหุ้นไทย ซึ่งการปรับสัดส่วนการลงทุนจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากมองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าไปลงทุน เพราะราคาหุ้นและดัชนีหลักทรัพย์ที่ได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยคาดผลตอบแทนประมาณ 6% ภายใน 7 เดือน ซึ่งจุดเด่นคือมีการทริกเกอร์ 2 ครั้งๆละ 3% เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนระหว่างทางเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเข้าเงื่อนไขในแต่ละช่วงตามที่กำหนด