ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: Yield Curve ปรับเพิ่มในตราสารอายุ3-5ปี,30-46ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 19, 2014 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 18 ธ.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 57,770 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 37,577 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 65.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,158 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 26.2% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 866 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB176A (รุ่นอายุ 4.5 ปี, 7.0 ปี และ 2.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,198 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH233A) มูลค่า 264.5 ล้านบาท

2. หุ้นกู้บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (UMI177A) มูลค่า 60.6 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY152B) มูลค่า 58.6 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 383.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,652 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 942 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,187 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.49% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้( 18 ธ.ค. 57)

Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3-5 ปีและ 30-46 ปี ประมาณ 1-2 bps. ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 36.59 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก ประกอบกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำที่ 0.25% ต่อไป และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,187 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ