สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 19 ธ.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,845 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 47,894 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 76.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 12,902 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 742 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB15DA, LB236A และ LB196A (รุ่นอายุ 1.0 ปี, 8.5 ปี และ 4.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,005 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL169B) มูลค่า 119.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกัน ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTTC195B) มูลค่า 117.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU207A) มูลค่า 104.9 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 342.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,725 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,434 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 180 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.52% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 3-5 ปี ประมาณ 2 bps. จากการขายทำกำไรของนักลงทุนบางส่วน ประกอบกับนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงปลายปี โดยวันนี้การประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ14 วัน จำหน่ายได้เพียง 9,486 ล้านบาท จากวงเงินประมูล 20,000 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 180 ล้านบาท ยอดถือครองตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์นี้เท่ากับ 681,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517 ล้าน จากสัปดาห์ก่อน