"ผมตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งๆที่เป็นการลงทุนปกติ ตรงนี้เห็นว่าเป็นที่น่าสงสัย น่าเคลือบแคลงมากกว่า และเรื่องนี้เกิดประโยชน์อะไรกับสังคม เพราะเป็นการลงทุนตามปกติในตลาดหลักทรัพย์"นายอารักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุน GRAMMY ถือว่าไม่มีนัยสำคัญ ส่วนการลงทุนใน NMG ได้มีการพูดคุยกับนายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการบริหาร NMG แล้วว่าทาง SLC จะไม่ส่งตัวแทนเข้าไปร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งเป็นไปตามคำขอของผู้บริหาร NMG แม้ว่าตามกฎหมายแล้วทาง SLC มีสิทธิส่งตัวแทนเข้าไปร่วมเป็นกรรมการได้ พร้อมกันนั้น SLC จะไม่ก้าวก่ายการบริหารงานของ NMG
อย่างไรก็ตาม นายอารักษ์ กล่าวว่า การถือหุ้น NMG เพียง 12.27% ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทมีอำนาจควบคุมเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว ซึ่งการถือหุ้ยของ SLC ถือว่าเป็นการลงทุนตามปกติผ่านตลาดหลักทรัพย์ และทำตามหลักเกณฑ์กติกาที่ถูกต้องของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
ขณะที่เห็นว่าการที่มีการเสนอข่าวพาวดพิงถึงนายฉาย บุนนาค ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 มาเกี่ยวข้องในกรณีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม ทั้งที่นายฉายไม่มีโอกาสชี้แจง อีกทั้ง ทางสื่อสปริงนิวส์ไม่ได้นำเสนอข่าวเพื่อตอบโต้เรื่องนี้เลย
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.)จะมีการประชุมในวันนี้จะพิจารณากรณีที่ SLC เข้าถือหุ้น NMG นั้น นายอารักษ์ กล่าวว่า การถือหุ้นใน NMG ของ SLC ไม่เกี่ยวข้องกบการถือใบอนูญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลของสปริงนิวส์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก อีกทั้งทาง กสท.ก็ไม่ได้เคยเรียก SLC เข้าพบเพื่อรับฟังคำชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้นหากจะตัดสินในเรื่องนี้โดยลำพังก็ไม่น่าจะเป็นธรรมกับ SLC
"ผมไม่รู้สิ ถ้าไม่เรียกเข้าพบ แต่อยู่ดีๆมาประชุมกันแล้วมาตัดสินกัน คิดว่าคงไม่ถูกต้อง แต่ถ้าหารือกันแล้ว เรียกให้สปริงนิวส์เข้าไปชี้แจง หรือเรียก SLC เข้าไปชี้แจงในฐานะบริษัทแม่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เรียกใคร และสปริงนิวส์ไม่ได้ทำผิดอะไร SLC เป็นบริษัทแม่ก็ไปลงุทนปกติ ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดเงื่อนไข ที่สำคัญคือต้องมีการเรียกเข้าไปต้องให้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ถึงเรียกสปริงนิวส์ ก็ไม่รู้เรื่อง เพราะงานนี้คนทำรายการซื้อหุ้นคือ SLC ไม่เกี่ยวกับสปริงนิวส์"นายอารักษ์ กล่าว