"แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการเติบโตของ EPG อีกทั้ง EPG ยังเป็นหุ้นนวัตกรรมตัวแรกของไทย ภายใต้โครงการหุ้นนวัตกรรมและสร้างสรรค์ ความภูมิใจของไทย และด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งโดยหุ้น EPG จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ในหมวดวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials)"ม.ล.ทองมกุฏ กล่าว
นายอรรถพงศ์ พรธิติ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ 3 กลุ่มธุรกิจใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า EPG มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมครบทั้ง 3 ประเภท คือ 1.นวัตกรรมด้านวัสดุ 2.นวัตกรรมด้านการออกแบบ และ 3.นวัตกรรมด้านการผลิต ทำให้สินค้ามีความโดดเด่น แตกต่าง และคู่แข่งทางการค้าไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ด้วยสิทธิบัตรที่การันตีความสำเร็จอีกกว่า 239 ฉบับ ในปัจจุบันนอกจากโดดเด่นด้านนวัตกรรมแล้ว EPG ยังมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ที่สามารถไปบุกตลาดต่างประเทศได้กว่า 100 ประเทศ ด้วยฐานการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วโลก จากปัจจัยทั้ง 3 ด้าน ทำให้ EPG เป็นบริษัทที่มี High Growth และ High Margin และมีพื้นฐานของธุรกิจที่ดีซึ่งส่งผลต่อศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต
ด้านนายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG กล่าวว่า ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ EPG มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิต และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศของ EPG ที่มีแนวโน้มการเติบโตอยู่แล้วให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เราจะนำเงินบางส่วนที่ได้จากการระดุมทุนครั้งนี้ภายหลังการหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหุ้นไปใช้ในขยายกิจการประมาณ 960 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น เพิ่มกำลังการผลิตในต่างประเทศของบริษัทแอร์โรเฟลกซ์ การลงทุนในโครงการเพิ่มกำลังการผลิตและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศของบริษัทแอร์โรคลาส และโครงการเพิ่มระบบออโตเมชั่น ด้วยเครื่องจักรความเร็วสูงของบริษัทอีสเทิร์น โพลีแพค ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการดังกล่าวอยู่นอกจากนั้น EPG จะนำเงินที่ได้จากการระดมไปชำระหนี้เงินกู้บางส่วนประมาณ 3,000 ล้านบาท"ดร.ภวัฒน์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ EPG เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยระหว่างปีบัญชี 55-57 มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 25-30% รวมถึงมี EBITDA เติบโตอย่างต่อเนื่องที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) 20.8% ตลอด 3 ปีบัญชีที่ผ่านมา