"บริษัทจะขยาย 3 เท่าตัวใน 3 ปีนี้ ในแง่รายได้ เส้นทางที่เดินรถ และจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น ส่วนจำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะสายสีม่วงเราเป็นคนเดินรถ เราจะเปิดทดลองวิ่งไตรมาสแรกปี 59 เปิดจริงส.ค.59 จะเห็นจำนวนผู้โดยสารโต 2 เท่า"
โดยในปี 58 คาดว่ารายได้จะเติบโต 10% จากปี 57 ที่คาดว่าเติบโต 10% ตามเป้า เนื่องจากในเดือนม.ค.58 ได้ปรับขึ้นค่าโดยสาร 1 บาท และรายได้เติบโตตามจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งทำให้อัตรารายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเฉลี่ยที่ 24 บาท/คน หรือเดินทาง 5 สถานี
ทั้งนี้ในปี 58 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตขึ้นมาที่ 3.1 แสนเที่ยว/วัน จากปีนี้ที่มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 2.9 แสนเที่ยว/วัน และในปี 59 คาดว่าจะเติบโตมาที่ 3.25 แสนเที่ยว/วัน โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่จะเริ่มเดินรถ 12 ส.ค.59 ที่คาดว่าจะผู้โดยสารเข้ามาในระบบปัจจุบันประมาณ 1 แสนเที่ยว/วัน และจะเติบมากในปี 60 ที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงเดินรถเต็มปี คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตมาที่ 4.46 แสนเที่ยว/วัน ซึ่งเป็นปีที่ BMCL จะมีกำไรเป็นปีแรก โดยจะเริ่มเห็นพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาส 4/59
ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ คาดว่า การถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะสรุปได้ต้นปี 58 และมีกำหนดการเปิดให้บริการในปลายปี 61 โดยรฟม.คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 3.5 แสนเที่ยว/วัน
"ถ้าเราได้เป็นคนทำ(เดินรถ)สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เราก็ไม่ต้องเสียเวลาทำ deppo เพราะเรามีอยู่แล้วไปปรับปรุง และแทนที่จะวิ่งรถปลายปี 61 เราก็จะทำไปทยอยเปิดใช้ไป" นายสมบัติ กล่าว
ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปว่า BMCL ได้เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บริษัทจะสั่งซื้อรถไฟฟ้า 28 ขบวน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีจำนวน 19 ขบวน และในปลายปี 58 รถไฟฟ้าที่ใช้รองรับสายสีม่วงจำนวน 21 ขบวนจะเริ่มทยอยเข้ามา